ใกล้ถึงบทสรุปสุดท้ายแล้วจริงๆ สำหรับคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวที่ตกสปีดโบ๊ต ขณะนั่งเรือเที่ยวกับเพื่อนร่วมแก๊ง

ด้วยความที่เป็นคดีที่ผู้เสียชีวิตเป็นดารามีชื่อเสียง และองค์ประกอบหลายๆ อย่าง จนถูกจับจ้องว่าอาจจะมีเงื่อนงำบางอย่าง

ไม่เชื่อว่าเรื่องของอุบัติเหตุธรรมดา จึงเกิดสารพัดทฤษฎี การสืบสวนของนักสืบโซเชี่ยล

เมื่อรวมกับเรื่องราวอื่นๆ ทั้งชีวิตส่วนตัวของดาราสาว เพื่อน ญาติ และกลุ่มเพื่อนที่ล่องสปีดโบ๊ตด้วยกัน ล้วนทำให้เกิดกระแสความสนใจของสังคมอย่างสูง

อย่างไรก็ตาม ความจริงของคดี ทุกอย่างก็ต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ผ่านการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสรุปผล ออกมาให้ได้

ซึ่งผลจากนิติเวช ก็ยืนยันว่าไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย

แม้ล่าสุดแม่แตงโม จะติดใจการตาย จนเลื่อนวันฌาปนกิจ และขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ผ่าพิสูจน์อีกครั้ง

ผลก็ออกมาเหมือนเดิม จึงเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินไปตามพยานหลักฐาน

ส่วนใครผิดหรือถูกอย่างไร ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม

โชว์ซีทีสแกน-คลี่คดีแตงโม

หลังจากงานไว้อาลัยดาราสาว แตงโม-นิดา ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 11-13 มี.ค. ที่คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ แขวงและเขตสะพานสูง กทม. โดยกำหนดการเดิมจะมีพิธีฌาปนกิจ ที่คริสตจักรเมธอดิสท์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในวันที่ 14 มี.ค. ก็ต้องเลื่อนออกไปด้วยการตัดสินใจของ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม

โดยนางภนิดา ประกาศกลางพิธีในวันที่ 12 มี.ค. ว่าจะเลื่อนพิธีฌาปนกิจไปก่อน

ทั้งนี้ เนื่องจากยังติดใจร่องรอยบาดแผลและรอยช้ำ พร้อมมอบหมายให้ นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความของ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่แตงโม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ปรึกษาทางคดี ทำหนังสือถึงพนักงานสอบสวน สภ.เมือง นนทบุรี ขอให้อายัดศพเพื่อตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริง

ต่อมาวันที่ 14 มี.ค. นางภนิดา พร้อมนายกฤษณะ และนายเดชา เดินทางมาที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรับฟังรายละเอียดในการชันสูตรพลิกศพของแตงโม

หลังจากรับฟังคำชี้แจงนานกว่า 3 ชั่วโมง นางภนิดา พร้อมทีมทนายก็ตั้งโต๊ะแถลงต่อสื่อมวลชน โดยนายเดชาระบุว่า ทุกข้อสงสัยทางตำรวจตอบทุกคำถาม ทั้งถูกตีหัว ฟันหลอ ถูกทำร้ายบนเรือ ไม่เป็นความจริง ตามที่สื่อโซเชี่ยลสงสัย เพราะดูภาพถ่ายศพฟันยังอยู่ครบ

ซึ่งในการสืบสวน ตำรวจระบุว่าสอบปากคำไปแล้ว 95 ปาก มีกล้องวงจรปิดมากมาย และคลิปต่างๆ ในโซเชี่ยล 160 คลิป กำลังสอบสวนอยู่ จะนำคลิปไปทำให้ชัดขึ้น และต้องรอผลตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน 19 ราย เช่น ชิ้นเนื้อ กล้องวงจรปิด ตำรวจยังไม่สรุปคดี ถ้ามีหลักฐานไปถึงใครบนเรือก็แจ้งข้อหาเพิ่ม

แต่ขณะนี้มีเพียงข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ส่วนประเด็นแผลต้นขาลึกถึงกระดูกก็ไม่เป็นความจริง ตรวจแล้วไม่พบเศษเหล็ก ทางนิติเวชบอกว่าแผลเกิดจากของมีคมและเกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดบนเรือหรือหลังตกเรือ ส่วนการเน่าเปื่อยเป็นไปตามปกติ ภาพที่หลุดออกไปเกิดจากถ่ายก่อนทำความสะอาด

ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ ถ่ายทั้งก่อนและหลัง ทำความสะอาดเพื่อชันสูตรศพ ทำให้เห็นเหมือนเป็นรอยช้ำ ซึ่งมีการทำความสะอาด และลอกผิวหนังพบว่าไม่มีรอยช้ำใดๆ

สาเหตุการเสียชีวิตคือจมน้ำ ขาดอากาศหายใจ แผลที่ขาไม่ได้ลึกถึงกระดูก และไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เสียชีวิต ตามที่มีการแชร์ในโซเชี่ยล

ทั้งนี้ แพทย์ได้นำผลซีทีสแกนศีรษะและใบหน้าของแตงโมมาแสดง ทั้งโครงสร้างกะโหลก ใบหน้า ช่องปาก รากฟันว่าไม่มีร่องรอยหัก กระดูกไม่มีรอยแตกใดๆ

เป็นอีก 1 ปมสงสัยที่คลี่คลาย

ผ่ารอบ 2-คลี่สงสัย 11 จุด

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคำอธิบายจากนิติเวชอย่างละเอียด นางภนิดาก็ยังยืนยันจะให้ผ่าพิสูจน์รอบ 2 เพื่อให้สิ้นสงสัย โดยในวันที่ 15 มี.ค. นางภนิดาเดินทางมารับศพแตงโม ที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อนำไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งอยู่ที่ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ขณะที่กระทรวงยุติธรรมระบุว่า ประเด็นสงสัยที่ขอให้ผ่าใหม่ คือ รอยไหม้บริเวณหน้าอก เรื่องฟัน ศีรษะ และบาดแผลที่ขา รวมทั้งการตรวจเลือดหาสารตกค้าง โดยคณะกรรมการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 15 ท่าน มีมติเอกฉันท์ให้ผ่าพิสูจน์อีกครั้งใน วันที่ 17 มี.ค. เวลา 14.00 น.

โดยมีคณะกรรมการจากภายนอกที่เป็นแพทย์จาก ร.พ. รามาธิบดี ร.พ.จุฬาฯ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาร่วมกันประชุมก่อนการชันสูตร และเชิญแพทย์ที่ผ่าพิสูจน์ในครั้งแรกมาร่วมสังเกตการณ์

ทั้งนี้ การผ่าพิสูจน์ศพแตงโมครั้งที่ 2 ทั้งหมด 11 จุด ตามที่ญาติของผู้เสียชีวิตตั้งประเด็นสงสัย ประกอบด้วย 1.ศีรษะโดยรอบ 2.ใบหน้า 3.ลำคอที่ผู้ตายสวมใส่สร้อย 4.หน้าอกใต้ลำคอ 5.บาดแผลที่ขา 6.บาดแผลบริเวณน่องและข้อพับทั้งสองข้าง 7.เล็บมือทั้งสองข้าง 8.แผ่นหลัง 9.หลอดลม 10.อวัยวะเพศ และ 11.เสื้อผ้าที่ผู้ตายสวมใส่ในวันเสียชีวิต

และหลังจากการผ่าพิสูจน์ ครั้งที่ 2 ในช่วงเย็นวันที่ 17 มี.ค. ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต, พ.ต.อ.ทรงศักดิ์, พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ในฐานะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา พร้อมนายแพทย์นิติเวชคณะกรรมการผ่าชันสูตรศพ ร่วมแถลงข่าวในการผ่าพิสูจน์ศพ ที่ห้อง ประชุมเล็ก ชั้น 7 ร.พ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤตกล่าวว่า ในการผ่าพิสูจน์ในครั้งนี้ มีแพทย์จาก ร.พ.จุฬาฯ, ร.พ.ธรรมศาสตร์ ร.พ.รามาฯ, สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และทีมทันตแพทย์ โดย มีพญ.คุณหญิงพรทิพย์ ร่วมสังเกตการณ์ โดยสิ่งที่นางภนิดาต้องการให้ตรวจพิสูจน์ที่สุด บริเวณโดยรอบศีรษะ ใบหน้า ลำคอที่สวมสร้อย หน้าอกใต้ลำคอ บาดแผลที่ขา บาดแผลน่องและข้อพับทั้งสองข้าง เล็บทั้งสองข้าง แผ่นหลัง หลอดลม อวัยวะเพศ เสื้อผ้าที่ผู้ตายสวมใส่ในวันเสียชีวิต

ทั้งนี้ ผลการตรวจพิสูจน์ในครั้งนี้ เบื้องต้นว่า กระบอกเปลือกตาปกติ ไม่มีบาดแผล ไม่มีลักษณะการเน่าที่ไม่เท่ากันสองซีก แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือการเปลี่ยนแปลงหลังจากตายที่ขึ้นจากน้ำ ไปค้างอยู่ที่โรงพักแล้วค่อยส่งไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แล้วภาพที่หลุดคือภาพที่อยู่ในรถทำให้เกิดความเข้าใจผิด

จากการดูภาพและการผ่าพิสูจน์ซ้ำสรุปได้ว่า ศีรษะไม่มีรอยช้ำ กะโหลกศีรษะไม่มีรอยร้าว ไม่มีรอยแตกแต่อย่างใด ส่วนฟันไม่พบว่ามีการแตก หัก หรือหลุดหายจากแรงกระแทก คอไม่มีร่องรอยถูกรัด กระเพาะปัสสาวะไม่เต็ม แต่บ่งชี้อะไรไม่ได้

โดยรวมแล้วไม่มีอะไรพลิกไปจากตรวจรอบแรก

‘ปอ-โรเบิร์ต’บวชโยคี

ทั้งนี้ แนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ตรวจสอบคราบเลือดบน สปีดโบ๊ตตั้งแต่วันแรกแล้ว ซึ่งก็ไม่พบคราบเลือดใดๆ จึงคาดว่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุพลัดตกเรือ ส่วนสาเหตุที่มีโคลนอยู่ในกระเพาะและปอด ก็น่าจะเป็นการตกลงไปแล้วหมดสติ จมไปถึงก้นแม่น้ำ

ซึ่งเป็นแนวทางการสืบสวนตั้งแต่แรก และแจ้งข้อหา นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือไฮโซปอ และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ในเรื่องการประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้

ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสอง เข้าพิธีบวชโยคีพราหมณ์ หรือบวชเนกขัมมะที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสถานปฏิบัติธรรมอีกแห่งหนึ่งของวัดท่าไม้ โดยมีพระญาณวิกรม หรือพระอาจารย์อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร บวชให้ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา

พร้อมเปิดเผยคลิปการปฏิบัติธรรม นอนกลด และเดินธุดงค์ โดยระบุว่า ต้องการส่งผลบุญให้กับแตงโม

แต่ก็มีเรื่องอีกจนได้ เมื่อเจ้าตัวพร้อมพระอุเทน ตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่าถูกสะกดรอยตามจากตำรวจตชด. และถูกคุกคาม จากการเดินธุดงค์ขึ้นเขากระโจม จ.กาญจนบุรี

จนพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ต้องชี้แจงว่า เขากระโจม จ.กาญจนบุรี เป็นแนวชายแดนที่สุดเขตประเทศไทย ลงเขาไปก็เป็นฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงจุดนั้นเป็นเขตหวงห้ามของตชด. โดยตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ในการเชิญลงมา โดยเงื่อนไขการประกันตัวมี 2 ข้อคือ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานและพฤติกรรมห้ามหลบหนี

“จุดที่ปอและโรเบิร์ตไปธุดงค์นั้น ไม่มีด่านของตม. แต่เป็นช่องทางธรรมชาติ ซึ่งตชด.รักษาแนวนั้นอยู่แล้ว ประกอบกับช่วงนั้นเป็นยามวิกาล ก็มีหน้าที่ต้องตักเตือน เพื่อป้องกันไม่ให้คนลักลอบเข้าออกประเทศในแนวธรรมชาติ ตชด.ก็ทำตามหน้าที่อยู่แล้ว”

แต่ถ้าทำผิดเงื่อนไขประกันตัวก็ต้องแจ้งถอนสัญญาประกันตัว หรือเชิญนายประกันมาแก้ไขสัญญา

เป็นอีกเรื่องที่สังคมจับตาท่าทีของทั้งคู่เช่นกัน

โกนหัวบวชโยคี

แม่แถลงหลังพบนิติเวช

แถลงผ่ารอบ 2

ส่งร่างผ่าพิสูจน์ซ้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน