‘พิตบูล’ อีกแล้ว!!! ยังเป็นที่เขย่าขวัญสั่นประสาทสำหรับคนบ้านใกล้เรือนเคียง ที่มีเคหสถานอยู่ชิดติดกับผู้ที่หลงใหลสุนัขดุที่ถูกผสมพันธุ์ออกมาให้เป็นนักล่าอย่าง ‘พิตบูล เทอร์เรีย’

ล่าสุดยังเกิดเหตุระทึกเมืองกาญจนบุรี เมื่อฝูงหมาบุกพังประตูเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ที่มีเพียงหนูน้อย 2 คน กับแมวอีก 2 ตัว จนเกือบทำให้หัวอกคนเป็นพ่อแม่ต้องหัวใจสลาย

เหตุการณ์ครั้งนี้ กลายเป็นข่าวขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ เมื่อนายสันติ กสินธุรัมย์ คุณพ่อวัย 29 ปี นำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านพักที่บันทึกเหตุการณ์ ขณะลูกชายวัย 6 ขวบ และ 8 ขวบ กำลังนั่งเล่นกับแมวอยู่ภายในบ้าน

จู่ๆ ได้มีสุนัขพันธุ์พิตบูลตัวใหญ่ 3 ตัว พังประตูมุ้งลวดเข้ามาภายในบ้าน ทำให้เด็กทั้งสองคนตกใจและรีบวิ่งหนี

ในภาพเห็นได้ชัดว่าสุนัขทั้ง 3 ตัว ทำท่าจะวิ่งเข้าใส่เด็กทั้ง 2 คน

แต่สุดท้ายหันไปพุ่งเข้าใส่แมวที่อยู่ใกล้กว่า ทำให้แมวกระโดดหนีออกไปนอกตัวบ้าน ก่อนจะถูกฝูงสุนัขตามไปกัดตายสยอง

นายสันติใช้คลิปภาพดังกล่าวเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.อาชวินทร์ อ่องวงศ์ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมให้การว่า เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 22 มี.ค. โดยหมาทั้ง 3 ตัว เป็นของพระลูกวัด วัดเขาเทพนิมิตร ม.7 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี ที่อยู่ติดกันเป็นเจ้าของ

หลังทราบเรื่องรีบไปพบพระเจ้าของสุนัข แต่อีกฝ่ายกลับบอกปัดความรับผิดชอบ อ้างว่า แค่กัดแมวตายไม่ได้ทำอันตรายกับเด็ก

เมื่อไปปรึกษาเจ้าอาวาสวัด ท่านก็บอกว่าสุดเอือมระอา เคยกล่าวเตือนพระที่เป็นเจ้าของสุนัขแล้วหลายครั้งให้ดูแลไว้ให้ดี แต่ก็ไม่เคยเชื่อฟังจนหลวงพ่อก็ไม่รู้จะทำยังไง

นายสันติจึงตัดสินใจนำคลิปกล้องวงจรปิด เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความ โดยยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการดำเนินคดีอะไรกับพระที่เป็นเจ้าของสุนัข

เพียงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้าไปดูแลและตรวจสอบว่าการที่พระเลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุร้ายไว้ในวัดกว่าสิบตัว เหมาะสมหรือไม่ และให้ช่วยพูดคุยกับพระรูปดังกล่าวดูแลสุนัขที่เลี้ยงไว้ให้ดีกว่านี้

เพราะหากในวันนั้นสุนัขทั้ง 3 ตัว ไม่ได้ตามไปกัดแมว แต่หันมากัดลูกทั้งคู่อาจทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิต

ผู้หมวดอาชวินทร์ นัดนายสันติไปพูดคุยกับพระสนธยาเจ้าของสุนัขดุทั้ง 3 ตัวที่วัดเขาเทพนิมิตร ในวันที่ 23 มี.ค.

หลังใช้เวลาเจรจากันด้วยดีประมาณ 20 นาที ก็ได้บทสรุปว่า นายสันติผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความที่สุนัขของพระสนธยากัดแมวตาย

แต่ขอให้หาวิธีดูแลจัดการกับสุนัขที่เลี้ยงเอาไว้ทั้งหมดแปดตัว ไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนหรือสร้างความเสียหายให้กับสัตว์เลี้ยงรวมถึงคนในบ้านอีก

พระสนธยาเผยว่า ช่วงเกิดเหตุเริ่มจากการที่นำสุนัขทั้งหมดไปอาบน้ำในบ่อด้านข้างวัดตามปกติ แต่บังเอิญมีแมวของชาวบ้านวิ่งเข้ามาในวัด ทำให้ฝูงสุนัขวิ่งไล่ตามสัญชาตญาณ พยายามตะโกนห้ามปรามแล้วแต่ไม่เป็นผล ทำให้เกิดเหตุการณ์ตามในคลิป

พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมาสุนัขทั้งหมดไม่เคยเข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าวหรือบ้านหลังอื่นที่อยู่รอบวัดแต่อย่างใด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าสุนัข เป็นฝ่ายผิด เตรียมย้ายสุนัขทั้งหมดที่เลี้ยงไว้ไปอยู่ที่บ้านแม่ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน โดยอาจจะต้องลาสึกออกไปเลี้ยงด้วยตัวเองหากทางบ้านไม่มีใครช่วยดูแล

พร้อมฝากบอกบุญไปถึงผู้ใจบุญที่อยากจะรับสุนัขเหล่านี้ไปเลี้ยงดู สามารถเดินทางมาขอรับได้ที่วัดเขาเทพนิมิตร

จากกรณีดังกล่าว นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวให้ความเห็นข้อกฎหมายว่า เจ้าของสุนัขจะต้องรับผิดตามกฎหมาย

โดยบทบัญญัติในมาตรา 377 ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพัง โดยประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายโกศลวัฒน์ยังขยายความหมายของประโยคที่ว่า “โดยประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์”

แค่ปล่อยสัตว์ดุหรือสุนัขดุ โดยไม่อยู่ในความควบคุมและอาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่น

ไม่ต้องกัดก็ผิดกฎหมายแล้ว

อุทาหรณ์ครั้งนี้เป็นสิ่งเตือนใจผู้หลงใหลในสุนัขดุต้องดูแลสัตว์ในปกครองให้ดี

เพราะคราวหน้าคงไม่มี ‘แมวเหมียว’ มาพลีชีพแทน 2 นายน้อย

เกตุแก้ว จงเจริญ เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน