“ตั้งใจแค่จะสั่งสอนไม่ให้ทำร้ายแม่อีก แต่ลงมือหนักไปหน่อย ทำให้นายสุเทนถึงแก่ความตาย จึงกลัวความผิดเอาศพไปทิ้งหมกไว้ในป่าหลังโรงงานร้างก่อนพากัน หลบหนี”
คำสารภาพของแม่และลูกชายที่วางแผนลวงฆ่าชายคนรักใหม่ของแม่ ระหว่าง พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุล รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี และ พ.ต.ท.เกรียงไกร ไม่โศก รอง ผกก.สอบสวน สภ.วารินชำราบ คุมตัว น.ส.จริยา หารสาร อายุ 38 ปี นายธิติสรร สิงคิบุตร อายุ 20 ปี สองแม่ลูก นายจุลเดช ใกล้ฝน อายุ 21 ปี และ นายเรืองศักดิ์ ทองจัตตุ อายุ 21 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพร่วมกันฆ่า นายสุเทน ทาระบุตร อายุ 36 ปี โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา
พฐ.เก็บหลักฐานวันพบศพ
ปฐมบทคดีนี้ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มี.ค. คนเลี้ยงวัวที่หมู่บ้านสนามชัย ต.โพธิ์ไทร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี วิ่งหน้าตื่นขึ้นโรงพักแจ้งตำรวจว่าเห็นสุนัขคาบกะโหลกศีรษะมนุษย์ ออกมาจากป่าต้นยูคาลิปตัสข้างโรงงานผลิตรองเท้าเก่าที่ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้าง
พ.ต.ท.อนันต์ เลาะหะนะ สว.สอบสวน สภ.พิบูลมังสาหาร จึงรีบรายงานเหตุร้ายต่อ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผกก. ก่อนร่วมกันนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ ร.พ.พิบูล มังสาหาร และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิ การกุศลจีตัมเกาะอุบลราชธานี
เมื่อตรวจสอบทั่วบริเวณพบโครงกระดูกมนุษย์เพศชาย สภาพมีเนื้อเน่าติดหลุดลุ่ย สภาพเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขาสั้นลายพราง และรองเท้าผ้าใบสีขาว คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 เดือน
ขณะกำลังชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ ร.ต.ต.เอกณรงค์ ทาระบุตร ตำรวจ กก.สส.บก.ภ.จว.อุบลราชธานี มาขอดูศพ พร้อมยืนยันว่าเป็นศพของ นายสุเทน ทาระบุตร อายุ 36 ปี น้องชายที่หายตัวไปจากบ้านพัก ในหมู่บ้านธาตุ ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา
นาทีรุมฆ่าโหด
ผู้หมวดเอกณรงค์ให้เบาะแสว่า น้องชายอยู่กินกับหญิงสาวรายหนึ่งที่มีลูกติดเป็นชายวัย 20 ปี ทราบว่าช่วงเย็นวันที่ 5 มี.ค. มีเรื่องทะเลาะกับลูกเลี้ยงที่พาเพื่อนวัยเดียวกันมารุมทำร้าย แต่โดนน้องชายใช้มีดไล่ฟันออกจากบ้านไป
จากนั้นราว 1 ชั่วโมง น้องชายสะพายดาบยาวขี่รถจยย.หายออกจากบ้านไป พยายามตามหามานานนับเดือน ส่วนตัวเมียและลูกเลี้ยงก็หายไปไร้ร่องรอยเช่นเดียวกัน
ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังสี รอง ผกก.สส.สภ.วารินชำราบ ก็นำกำลังไปตามคุมตัว น.ส.จริยา ภรรยานายสุเทนผู้ตาย นายธิติสรร ลูกชาย พร้อมเพื่อนนายธิติสรรอีก 4 คน ประกอบด้วย นายจุลเดช นายเรืองศักดิ์ และชายวัยรุ่นอายุ 17-18 ปี อีก 2 คน ไปสอบปากคำจนยอมรับสารภาพ ในช่วงเย็นวันเดียวกัน
รถปิกอัพที่ขนศพไปทิ้งหมกป่า
สำหรับสาเหตุที่ต้องฆ่าพ่อเลี้ยง นายธิติสรรอ้างว่าปกติคนตายที่ติดยาเสพติด เวลาเสพยาจะมีอารมณ์โมโหร้ายทำร้ายทุบตี น.ส.จริยาเป็นประจำ เพราะคิดว่าปันใจไปมีชายคนใหม่
วันเกิดนายธิติสรรซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและไข่เอาไปให้แม่ด้วยความเป็นห่วง แต่เจอกับนายสุเทนอยู่บ้านและมีอาการเมายา คว้ามีดดาบทำท่าจะเข้ามาทำร้าย และพูดข่มขู่ ให้จำหน้าเอาไว้ เพราะสักวันจะเป็นคนฆ่าตนให้ตายคามือ จนต้องหนีเตลิดออกมา
แต่ด้วยความเป็นห่วงแม่ว่าจะถูกทำร้าย จึงชักชวนกลุ่มเพื่อนย้อนกลับไปช่วยแม่ เมื่อไปถึงบ้านพบว่านายสุเทนกำลังอาละวาดอยู่ เพราะแม่เองก็ลอบหนีออกจากบ้านไปแล้วด้วยความหวาดกลัว จึงพากันขี่รถจยย. ออกจากบ้านมา
กระทั่งตามหาแม่จนพบจึงวางแผนให้แม่โทรศัพท์ลวงนายสุเทนออกไปพบในซอยเปลี่ยวข้างวัดจังกาจิตติ์ ถนนวารินชำราบ-เดชอุดม ต.แสนสุข ห่างจากบ้านของคนตายประมาณ 3 ก.ม. โดยกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ดักรออยู่
กลุ่มผู้ต้องหาหนีไม่รอด
เมื่อนายสุเทนขี่รถจยย.มาถึง นายจุลเดชเป็นคนลงมือใช้ไม้ตีเข้าที่ลำตัวไป 3-4 ที คนตายพยายามจะวิ่งหนี แต่ล้มลงกับพื้น นายเรืองศักดิ์จึงใช้มีดฟันเข้าที่ต้นขาของ คนตายไป 2 ครั้ง จนฟุบหน้าลงกับพื้น ก่อนที่นายธิติสรรลงมือเป็นคนสุดท้ายใช้มีดปลายแหลมที่เตรียมมาแทงเข้าที่แผ่นหลังอีก 4 แผล จนคนตายแน่นิ่งไป
จากนั้นช่วยกันขนศพขึ้นรถปิกอัพขับข้ามอำเภอไปทิ้งหมกโรงงานร้าง จนผ่านไปนานนับเดือน กระทั่งถูกตำรวจตามจับได้ในเวลาไม่นานหลังมีคนไปพบศพ
แม้กลุ่มผู้ต้องหาจะอ้างว่าพลั้งมือ แต่พฤติกรรมกลับโหดร้ายสวนทางคำให้การ ไม่แคล้วต้องยกโขยงเข้าไป รับโทษในตะรางอีกหลายปี
ส่วนโจ๋รุ่นน้องอีก 2 คน เพียงอยู่ร่วมในเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ลงมือสังหารหรือขนย้ายศพ ตำรวจเลยถูกกันไว้ เป็นพยานรอดคุกไปได้อย่างหวุดหวิด
พงษ์สันต์ เตชะเสน
เรื่อง/ภาพ
