เกวลี เกิดน้อย

เรื่อง/ภาพ

เรื่องความหึงหวงนั้นไม่เข้าใคร ออกใคร สามารถเป็นกันได้ทุกคน

บ้างก็ออกอาการเพียงเล็กน้อย พอน่ารัก ง้องอนกันนิดหน่อยก็กลับครองรักหวานชื่นกันอีกครั้ง

หากรุนแรงขนาดใช้กำลังทะเลาะเบาะแว้งกันจนเป็นที่เอือมระอา แก่ผู้คนรอบข้างคงไม่ไหว

แต่คนบางประเภทเมื่อเกิดอาการหึงขึ้นมาแล้วก็เก็บความโกรธแค้นเอาไว้ไม่ไหว หลายรายหนักหนาสาหัส ถึงขั้นถึงเลือดถึงเนื้อและถึงชีวิต

ล่าสุดยังเกิดเหตุสลดของคนเคยรัก เมื่ออดีตสามียังตามหึงหวงเมียเก่า ตามราวีอยู่ไม่เว้นวัน จนสุดท้ายก็ต้องกลายเป็นฆาตกรไปจนได้

เหตุครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเทศกาล ปีใหม่ผ่านพ้นไปไม่กี่วันเท่านั้น

เรื่องราวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ ร.ต.อ. เฉลิมชัย ปานธรรม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สรรคบุรี อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 218 หมู่ 9 ต.ห้วยกรด จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมพ.ต.อ.วิโรจน์ ข้าวบ่อ ผกก.สภ.สรรคบุรี ชุดสืบสวน สายตรวจ แพทย์เวร ร.พ.สรรคบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน บก.ภ.จว.ชัยนาท และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูชัยนาท

ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของชำ พบศพ นางจันทิมา ฤทธิ์ศิริ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 หมู่ 2 ต.ห้วยกรด

มีบาดแผลถูกยิงท้ายทอยทะลุ หน้าผาก นอนจมกองเลือดอยู่ใต้โต๊ะทำงาน ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่ 1 ปลอก

ส่วนมือปืนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ นายจักกฤช หรือ ตี๋ รักจับ อายุ 51 ปี อดีตสามีผู้ตาย ที่เลิกกันมาปี กว่าแล้ว แต่ยังตามหึงหวงกันอยู่ไม่เลิกรา

เพื่อนผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนั่งคุยกับผู้ตาย และเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของร้านชำที่ เกิดเหตุ

ต่อมานายตี๋ขี่มอเตอร์ไซค์มาหา ก่อนจะลงมาหาผู้ตายขอดูโทรศัพท์ พร้อมตะโกนบอกว่าใครไม่เกี่ยวอย่ายุ่ง เอามือถือมา เพื่อนๆ ก็ช่วยกันห้ามว่าตี๋อย่าๆ นายตี๋ ก็ไม่ยอมฟังชักปืนออกมาจะยิง ผู้ตายจึงโดดหนีไปหลบหลังโต๊ะทำงานก้มหลบและยกมือไหว้ร้องขอชีวิต

แต่นายตี๋ไม่สนใจเข้าไปจ่อยิงระยะเผาขนที่ท้ายทอย 1 นัด จนเสียชีวิต โดยที่ผู้ตายยังกำโทรศัพท์ไว้แน่น แล้วขี่รถหลบหนีไป ส่วนสาเหตุก็มาจากเรื่องหึงหวง

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทั้งของพื้นที่และสืบสวนจังหวัด ต่างระดมกำลังลงพื้นที่ติดตามหาตัวนายตี๋อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเกรงว่าจะตามไปก่อเหตุฆ่าชายที่สงสัยว่าเป็นแฟนใหม่ของอดีตภรรยาอีกคนด้วย

พร้อมรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาล

หลังทนถูกเจ้าหน้าที่กดดันอยู่ 10 กว่าวัน ในที่สุดนายตี๋ก็ติดต่อขอ มอบตัวที่ กก.สส.บก.ภ.จว.นนทบุรี ในวันที่ 14 ม.ค. ก่อนที่พนักงานสอบสวนสภ.สรรคบุรี จะไปรับตัวมาสอบปากคำซึ่งให้การรับสารภาพตลอด ข้อกล่าวหา

หลังได้คำรับสารภาพ พ.ต.อ. วิโรจน์ ก็นำกำลังคุมตัว ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำ รับสารภาพในจุดเกิดเหตุ

นายตี๋ให้การอ้างว่า ได้เอาปืนออกมาขู่และขอดูโทรศัพท์จากผู้ตายว่าได้คุยกับใครบ้าง แต่อดีตภรรยาไม่ยอมให้จึงใช้มือซ้ายยื้อแย่ง ระหว่างนั้นเองปืนก็เกิดลั่นขึ้นมาถูกอดีตภรรยาเต็มๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ

ด้วยความตกใจจึงรีบขี่รถมอเตอร์ไซค์หนี เอาปืนไปซ่อนในบ้านส่วนมอเตอร์ไซค์นำไปซ่อนไว้ที่บ้านเพื่อน ก่อนหนีไปซ่อนตัวที่กระท่อมกลางทุ่งนาห่างจากบ้านตัวเองไป 300 เมตร

นายตี๋ให้การอีกว่า ขณะหลบอยู่ที่กระท่อมกลางทุ่งนาถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่บ้านทุกวันจนไม่กล้าออกไปไหน ต้องทนอดอาหาร มีเพียงกล้วยในสวนประทังชีวิต

กระทั่งเย็นวันที่ 14 ม.ค. ตน ทนแรงกดดันของตำรวจไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินเท้าออกไปจากหมู่บ้านขึ้นรถโดยสารไปหาญาติที่รู้จักกัน ซึ่งเป็นอดีตตำรวจที่จังหวัดนนทบุรี

เพื่อให้พาเข้ามอบตัวที่ กก.สส.บก.ภ.จว.นนทบุรี ก่อนที่ตำรวจกก.สส.บก.ภ.จว.ชัยนาท และตำรวจ สภ.สรรคบุรี ไปรับตัวกลับมาดำเนินคดี

รูดม่านเรื่องสลดที่เริ่มต้นจาก ความรัก แต่กลับต้องจบลงด้วยความตายและคุกตะรางไปอีกหนึ่งคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน