ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ
เกษม ชนาธินาถ
เรื่อง/ภาพ
กลางดึกวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ยิงถล่มนายวีระชัย ล้ออริยธนโชติ หรือเสี่ยคิม อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60-66 เขตเทศบาลตำบลบัวใหญ่ นักธุรกิจชื่อดังของบัวใหญ่ รวม 7 นัด ขณะกำลังขับรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว 4 ประตู ทะเบียน ขท 8925 นครราชสีมา กลับบ้านโดยมีแฟนสาวนั่งมาด้วย
กระสุนจากปืนของคนร้ายเกาะกลุ่มกัน ชนิดแม่นราวจับวาง คมกระสุนเจาะเข้าที่ศีรษะและตามร่างกายหลายแห่งของเสี่ยคิมจนบาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบัวใหญ่ เหตุเกิดบริเวณถนนบายพาส เขตตัวเมืองบัวใหญ่ ก่อนถึงบ้านพักของนายวีระชัย เพียง 200 เมตร
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.วิสาร์ท สมปราชญ์ รอง ผบช. ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.นครราชสีมา พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.บัวใหญ่ นายประพัทธ์พงศ์ พราหมณี นายอำเภอบัวใหญ่ และตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบหาร่องรอยเบาะแสคนร้ายทันที
จากการสอบปากคำแฟนสาวที่นั่งมากับผู้ตาย คาดว่าคนร้ายมีแค่คนเดียว ขี่รถจยย.ไม่ทราบชนิดและยี่ห้อมาดักซุ่มบริเวณจุดเกิดเหตุสามแยก ถนนบายพาส เมื่อผู้ตายขับรถมาถึงและต้องชะลอความเร็วรถ มือปืนจึงฉวยโอกาสใช้อาวุธปืน 9 ม.ม.จ่อยิงในระยะใกล้ กระสุนพุ่งฝ่ากระจกทะลุไปโดนผู้ตายตามลำตัวและศีรษะรวม 7 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ตํารวจตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็น คือขัดแย้งส่วนตัวและชู้สาว โดยนายวีระชัยเคยทำธุรกิจร้านอาหารและผับชื่อดังในบัวใหญ่ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนครอบครัวทำธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง มีฐานะดี เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและกว้างขวางในอำเภอบัวใหญ่
รวมถึงนิสัยส่วนตัวของนายวีระชัยเป็นคนพูดจาโผงผาง นักเลง อาจมีศัตรูหรือมีความขัดแย้งกับผู้อื่น นอกจากนี้ ยังเป็นหนุ่มหน้าตาดี อาจมีเรื่องชู้สาวมาพัวพันด้วย
พล.ต.ต.วัชรินทร์เปิดเผยว่า คดีนี้คาดว่ามีคนร้ายเพียงคนเดียวที่ก่อเหตุ เบื้องต้นตำรวจสอบปากคำพยานแวดล้อมแล้ว 6 ปาก หลังจากนี้ได้จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวเบาะแสคนร้ายรายนี้อย่าง เข้มข้น คาดว่ายังกบดานอยู่ไม่ไกล แต่ขอเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ต้องทำอย่างรอบคอบที่สุด
ขณะที่ญาติคนหนึ่งของเสี่ยคิมเปิดเผยว่า ญาติๆ ทุกคนเชื่อว่าปมสังหารมาจากเรื่องความขัดแย้งเมื่อ 4 ปีก่อน สมัยที่เสี่ยคิมเปิดสถานบันเทิงชื่อ “มังกี้ผับ” อยู่ในเขตเทศบาลเมืองบัวใหญ่ และมีเรื่องถูกคู่กรณี 3 คนทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยคู่กรณีหนึ่งในนั้นได้ใช้ ด้ามปืนทุบตีเสี่ยคิมจนเป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส สุดท้ายจึงปิดกิจการไป
ต่อมามีการฟ้องคดีทำร้ายร่างกายจนขึ้นโรงขึ้นศาล ซึ่งมีคู่กรณี 2 คน ถูกตัดสินจำคุกไปแล้ว 2 แต่มีอยู่ 1 คนเป็นอดีต ตร.ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมา และไม่ยอมไปฟังคำตัดสินของศาล โดยช่วงหลังๆ มานี้ก็ได้มีการพยายามติดต่อขอเอาเงินมายัดเพื่อยุติคดี แต่เสี่ยคิมไม่ยอม ต้องการให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ล่าสุดมีการโทรศัพท์มาข่มขู่จะฆ่าหลายครั้ง จนมาเกิดเหตุถูกยิงตายดังกล่าว ขณะเดียวกันญาติๆ ก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยเหมือนกัน
พ.ต.อ.คารม เผยว่า เบื้องต้นได้เบาะแสของคนร้ายรายนี้แล้ว คาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ที่เคยมีความขัดแย้งส่วนตัวกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนลงพื้นที่จับตาดูความเคลื่อนไหวของ ผู้ต้องสงสัยอย่างใกล้ชิด ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานและหลักฐาน ก่อนที่จะออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.คารม เผยอีกว่า ตำรวจได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนสายเลี่ยงเมืองบัวใหญ่ เป็นรถของผู้ต้องสงสัย 2 คัน วิ่งผ่านหน้าปั๊ม เป็นรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า สีขาว และรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า แค็บ สีดำ เห็นเลขทะเบียนไม่ค่อยชัด อยู่ระหว่างให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
คาดว่าทีมคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน คือคนดูต้นทาง คนชี้เป้า และคนยิง โดยคนยิงน่าจะมีความชำนาญการใช้อาวุธปืน เนื่องจากยิง 9 นัด ถูกผู้ตาย 7 นัด และไม่ถูกแฟนสาวเลย
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าเสี่ยคิมเคยมีเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวกับ ด.ต.พลศักดิ์ บุญเรือง หรือต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นนายทรงพล ศรีบุญเรือง อายุ 45 ปี อดีตตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการ เคยขึ้นโรงขึ้นศาลกัน และคู่กรณีพยายามไกล่เกลี่ยแต่ไม่สำเร็จ ทำให้ผูกใจเจ็บ และขู่ฆ่ามาแล้วหลายครั้ง ประกอบกับภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดระบุได้ว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกัน จึงขออำนาจศาลจังหวัดบัวใหญ่อนุมัติออกหมายจับแล้ว
ส่วนการติดตามตัวตำรวจชุดสืบสวน สภ.บัวใหญ่ บุกเข้าค้นรีสอร์ตแห่งหนึ่งในตัวเมืองบัวใหญ่ แต่ไม่พบตัว คาดว่าน่าจะไหวตัวทัน และอยู่ระหว่างหลบหนีออกนอกประเทศ จึงประสานกับในพื้นที่จังหวัดติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสกัดจับ รวมทั้งกดดันผ่านทางแฟนสาวของคนร้ายเพื่อให้ยอมมอบตัวแต่โดยดี
คดีนี้ตำรวจเร่งดำเนินการคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญชาวบัวใหญ่ เชื่อว่าไม่นานน่าจะได้ตัว
