สดจากสนามข่าว : ตามปส.ลุยเครือข่ายยา ค้นบ้านเจ้าแม่ค้ากัญชา สว.ทล.สามีโดนคดีด้วย

นพรัตน์ คุ้มศรี-พิชัย ศรีรุ่งเรือง

เรื่อง/ภาพ

สิบโมงเช้าวันที่ 16 ม.ค. ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำโดย พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผกก.1 บก.ปส.4 พ.ต.ท.ธิติสรรค์ อุทธนผล รอง ผกก.กก.1 บก.ปส.4 พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.นริศ ผูกจิต สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังกว่า 30 นาย พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรีลงวันที่ 16/2561

เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 37/358 ภายในหมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 35 หมู่ที่ 2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านพัก ของ น.ส.ทิพย์อาภา หรือ อีฟ รักษาแสง หนึ่งในเครือข่ายยาเสพติด ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมที่ จ.อุดรธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านพัก พบมี พ.ต.ท.ธนกฤต นิตสพันธ์ สว.สอบสวนส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ซึ่งรับว่าเป็นสามีของ น.ส.ทิพย์อาภา และพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวออกมา เจ้าหน้าที่ จึงแสดงหมายค้น พร้อมขอเข้าตรวจค้นซึ่งเจ้าตัวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

จากการตรวจสอบโดยรอบบ้านพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 50 ตร.ว. มีรั้วรอบขอบชิด ที่หลังบ้านพบรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา หมายเลขทะเบียน 5 กช 9555 กรุงเทพมหานคร และรถตู้ ยี่ห้อฮุนได รุ่นเอช 1 สีดำ หมายเลขทะเบียน อก 5999 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทราบมาว่ามีบ้านพี่สาว ของผู้ต้องหาอยู่ที่หมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 29 บ้านเลขที่ 36/198 ที่สร้างในหมู่บ้านติดกัน จึงนำกำลังเข้าไปตรวจค้น แต่มีเจ้าหน้าที่รปภ.และชายอ้างเป็นนิติบุคคลหมู่บ้านมาขัดขวางไม่ยินยอมให้เข้าตรวจค้น

แม้น พ.ต.ท.ธิติสรรค์ จะแสดงตัวพร้อมกับโชว์บัตร แต่รปภ. ก็ยืนยันไม่ให้เข้า เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวเอาไว้ ฐานขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ก่อนที่เจ้าของบ้านจะออกมาพร้อมกับยินยอมให้เข้าตรวจค้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นบ้านหลังที่สอง ก่อนจะออกมาตรวจค้นรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ หมายเลขทะเบียน 5 กศ 5999 กรุงเทพมหานคร เบื้องต้นพบพาสปอร์ตและเอกสารการคุ้มครองรถ ซึ่งเป็นชื่อของ น.ส.ทิพย์อาภา นอกจากนี้ ยังตรวจรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า สีขาว หมายเลข ทะเบียน 2 กภ 4740 กรุงเทพมหานคร ที่ท้ายรถพบเครื่องนับเงิน 1 เครื่อง จึงตรวจยึดเอาไว้

พ.ต.ท.ธิติสรรค์กล่าวว่า การตรวจค้นบ้านพักทั้งสองจุด ตรวจยึดรถยนต์ 3 คัน เครื่องนับธนบัตร 1 เครื่อง เอกสารการทำธุรกรรมทางการเงิน บ้านพักหรู 1 หลัง

นอกจากนี้ ยังทราบว่ามีการปลูกสร้างรีสอร์ตในหาดปึกเตียน จ.เพชรบุรี ลงทุนทำไป กว่า 50 ล้านบาท ซึ่งจะได้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมเชิญ พ.ต.ท.ธนกฤต ที่พบอยู่ภายในบ้านพัก ไปสอบสวนด้วย

สำหรับรถยนต์และเครื่องนับธนบัตรที่ยึดได้จากการเข้าค้นบ้านหลังที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเฝ้าสังเกตการณ์ติดตามพฤติกรรมอยู่ พบว่ามีการย้ายมาจากบ้านเป้าหมายหลังแรก ในช่วงวานนี้ ภายหลังการจับกุม น.ส.ทิพย์อาภา

วันรุ่งขึ้น พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า พ.ต.ท.ธนกฤต เดินทางมารายงานตัวที่บช.ก. ตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว ตนจึงสั่งการให้สอบสวนอย่างละเอียด เบื้องต้นทาง พ.ต.ท.ธนกฤตยังไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์มากนัก มีเพียงคำให้การแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ว่าทราบเพียงว่าภรรยามีอาชีพปล่อยเงินกู้ ส่วนกรณีภรรยาค้ายาเสพติดนั้นให้การว่าไม่ทราบ ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทางบช.ปส.เป็นผู้ดำเนินการทางคดี

“เขามาอยู่ทางหลวงเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนจะเข้าไปเกี่ยวข้องมาตลอดหรือไม่ ก็กำลังไล่ดูตรวจสอบ แต่จากการซักถามตรวจสอบเขาก็บอกว่าเพิ่งจะคบกับภรรยาคนนี้มาได้ประมาณ 4-5 ปี ที่ผ่านมานี่เอง ส่วนจะใช้ยศตำแหน่ง หรือหน้าที่ไปอำนวยความสะดวกในการค้า ยาเสพติดหรือไม่ ก็จะต้องสืบสวนอย่างละเอียด” พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าว

ต่อมาศาลอาญาอนุมัติหมายจับ เลขที่ 25/2561 ลงวันที่ 17 มกราคม 2561 ให้จับกุมตัวพ.ต.ท.ธนกฤต ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบคิดโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติดที่ได้มีการสมคบกัน, รับเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดเพื่อประโยชน์หรือให้คนสะดวก แก่การกระทำความผิด”

หลังศาลออกหมายจับ ตร.มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ธนกฤตออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่กลางดึกคืนวันนั้นเองเจ้าตัวก็เข้ามอบตัวที่บช.ปส. ก่อนถูกสอบเครียดแต่ยังยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง

ด้าน พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ให้ข้อมูลยืนยันว่า น.ส.ทิพย์อาภาเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายไซซะนะ โดยใช้วิธีศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าตัวเอง และเปลี่ยนรูปลักษณ์ ปรับเปลี่ยนยานพาหนะเพื่อใช้ขนยาเสพติด โดยการฝังยาเสพติด ไว้ใต้พื้นรถ และใช้ป้ายทะเบียนหลายหมายเลข เป็นการสวมหมายเลขทะเบียนอย่างผิดกฎหมาย

ส่วน พ.ต.ท.ธนกฤต ผบช.ปส.ยืนยันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน ทั้งส่วนของการลำเลียง และการดูแลทรัพย์สิน

คดีนี้ต้องพิสูจน์กันอีกหลายยก มีหลักฐานเอาผิด แก้ต่างอย่างไร ไปแสดงกันในศาล