วันชัย พูลเพิ่มพันธ์

ยุวนิต สังวาลย์พานิช

เรื่อง/ภาพ

“พ่อเสพยาบ้า จนมีอาการคลุ้มคลั่ง ควบคุมตัวเองไม่ได้ ชอบทำร้ายร่างกายแม่และน้องสาว ปลายปีที่ผ่านมา ก็ทำร้ายร่างกายแม่จนซี่โครงหัก ส่วนน้องสาวถูกพ่อเอามีดจี้ที่คอเป็นประจำ ทุกวันนี้อยู่ด้วยความหวาดระแวง กลัวว่าแม่และน้องจะได้รับอันตราย สุดท้ายจึงย้ายมาอาศัยอยู่ที่บ้านยายหลังที่ เกิดเหตุ ซึ่งห่างจากบ้านพักเดิมเพียง 200 เมตรเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ปลอดภัย”

คำให้การของ นายตรีทเศศ กระดังงา อายุ 23 ปี ลูกชายของ นายนำพล เวียงชัย อายุ 50 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนจ่อยิง น.ส.เตือนตา กระดังงา อายุ 53 ปี อดีตเมียและแม่จนเสียชีวิตสยองต่อหน้าหลานชายวัย 10 ขวบ

ย้อนไปเมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 18 ม.ค. ร.ต.อ.ปรมะ วิไลลักษณ์ตระกูล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุมีคนถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 26 หมู่ 12 ต.สระเทียม อ.เมือง จ.นครปฐม จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท. สมชาติ ขันบุรี รองผกก.ป. พ.ต.ท. กันตภณ เสือดาว สวป. ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 7 แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทรงไทย 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ บริเวณพื้นบ้านพบศพ น.ส.เตือนตา กระดังงา อายุ 53 ปี เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) สระกะเทียม อ.เมือง จ.นครปฐม สภาพศพนอนตะแคงข้างเสียชีวิตจมกองเลือด พบบาดแผลถูกปืนขนาด .38 ยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด

ผู้ก่อเหตุคือ นายนำพล เวียงชัย อายุ 50 ปี หรือ พลเก้านิ้ว ฉายาที่เพื่อนตั้งให้ หลังนิ้วชี้มือข้างซ้าย ถูกเครื่องเกี่ยวข้าวตัดขาด ที่อยู่ตามบัตรประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 10 ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม อดีตสามีของผู้ตายเป็นผู้ลงมือสังหาร

ด.ช.ภู นามสมมติ อายุ 10 ขวบ หลานของผู้ตาย เผยว่า ก่อนเกิดเหตุยืนอยู่ในบ้านใกล้ๆ กับเตียงที่นางบุญปลูก กระดังงา อายุ 90 ปี ซึ่งเป็นทวดป่วยเป็นอัมพฤกษ์นอน กางมุ้งอยู่ จู่ๆ เห็นนายนำพลเดินปรี่เข้ามาในห้องนอน ของน.ส.เตือนตา แล้วลากตัวออกมานอกห้อง

ตนเห็นผู้ตายร้องโวยวายว่า “ไม่ไป ไม่อยากไป” แต่ นายนำพลไม่ฟัง และยังชักอาวุธปืนขึ้นจ่อหัวยิงใส่เข้าที่ศีรษะทันที ตนตกใจกลัวรีบวิ่งหนีออกทางหลังบ้านเพราะกลัวว่าจะยิงตนด้วย ส่วนนายนำพลหลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีออกไปทางหน้าบ้าน

ขณะที่ตำรวจสอบสวนปากคำนายตรีทเศศ กระดังงา ลูกชายของ น.ส.เตือนตาและนายนำพล เผยว่า พ่อมีพฤติกรรมเสพยา คลุ้มคลั่ง ควบคุมตัวเองไม่ได้ ชอบทำร้ายร่างกายแม่และน้องสาว พ่อได้เลิกรากับแม่ไป 2 ปีแล้ว แต่เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา พ่อมีอาการคลุ้มคลั่งหนักทำร้ายร่างกายแม่ จนซี่โครงหัก ส่วนน้องสาวจะถูกพ่อเอามีดจี้จ่อที่คอเป็นประจำ ทุกวันนี้อยู่ด้วยความหวาดระแวง กลัวว่าแม่และน้องจะได้รับอันตราย จึงได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านยายหลังที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างจากบ้านพักเดิมเพียง 200 เมตรเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ปลอดภัย สำหรับอาวุธปืนที่พ่อนำมาก่อเหตุขโมยมาจากบ้านญาติ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากเรื่องหึงหวงแม่เพราะเข้าใจผิดคิดว่าแม่มีสามีใหม่จะคอยอาละวาดตามราวีไม่เลิกและชอบขู่ฆ่า

ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม สั่งการให้ พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รองผบก.ภ.จว.นครปฐม ระดมชุดสืบสวนทั้ง ภ.จว.นครปฐม สภ.เมือง ประสานกับชุดสืบสวน ภ.ภาค 7 ออกติดตามไล่ล่าตัวมือปืนโหดอย่างเต็มที่

ชุดสืบสวนกระจายกำลังออกตามหา ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 20 ม.ค. มี ชาวบ้านได้พบเห็นนายนำพล มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 7 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ก่อนที่ตำรวจจะร่วมกันวางแผนจนสามารถจับกุมตัวได้ พร้อมของกลาง ปืนรีวอลเวอร์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก มีกระสุนปืนในลูกโม่อยู่ 5 นัด ยิงไปแล้ว 1 นัด และปืนกึ่งออโตเมติก ยี่ห้อสตาร์ ขนาด 6.35 ม.ม. อีก 1 กระบอก ภายในซองมีกระสุนปืน 2 นัด โดยนายนำพลให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

รุ่งขึ้นวันที่ 21 ม.ค. ตำรวจนำตัวนายนำพลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของ น.ส.เตือนตา โดยญาติยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ นอกจากนี้ยังพบว่ามีชาวบ้านจำนวนมากเมื่อทราบข่าวว่าจะมีการทำแผนฯได้เดินทางมายัง จุดเกิดเหตุ พร้อมด่าทอสาปแช่งจนเกิดเหตุชุลมุน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

ตำรวจตรวจสอบประวัติทราบว่า นายนำพลยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ลงวันที่ 27 พ.ย.60 ในข้อหาบุกรุกเคหสถาน โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธในเวลากลางคืน ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด และพกพาอาวุธปืน

สำหรับสาเหตุที่ยิงอดีตภรรยาเสียชีวิต นายนำพลรับว่า มาจากเรื่องความหึงหวง โดยกลัวว่า นางเตือนตาจะมีสามีใหม่ แม้จะเลิกรากันไปแล้ว แต่ก็ยังผูกพันกันอยู่ ประกอบกับเสพยาบ้า จึงทำให้เกิดอาการหลอน คลุ้มคลั่งและเครียด จึงก่อเหตุ ดังกล่าวขึ้น

ปิดฉากอีกหนึ่งเรื่องราวสลด ที่มี ยาเสพติดเป็นส่วนช่วยกระตุ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน