ณัฎฐนันท์ ศิรสันติวรกุล

เรื่อง/ภาพ

หลายครั้งที่เหตุเข้าใจผิดกลายเป็น ปฐมบทของเหตุการณ์สลด เหตุการณ์นี้ก็เช่นกัน แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่ถึงกับสูญเสียชีวิต

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในตอนเช้าของ วันที่ 30 ม.ค. บนถนนเอกชัย บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ม.4 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อ พ.ต.ท.ทวีป เงินดี รองผกก.สอบสวน สภ.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ขับไล่กันจนตกร่องน้ำข้างทาง หน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.ดังกล่าว

เมื่อไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.อดุลชัย เผ่าพันธุ์ศร รองผกก.สอบสวน ก็พบรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีดำ ทะเบียน ชฮ 4997 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้าทิ่มลงไปในคูน้ำหน้าปั๊มน้ำมันพังเสียหาย หน้ารถด้านขวายุบเล็กน้อย กันชนหน้าแตกหลุดออกมา

น.ส.วิไลวรรณ มูลทา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ซอยเอกชัย 109 แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ เจ้าของรถยืนรอให้การกับตำรวจอยู่ด้วยอาการยังไม่หายตกใจ เจ้าตัวเล่าว่าก่อนเกิดเหตุขับรถออกจากบ้านพักย่านบางบอน มุ่งหน้าไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร

ขณะขับรถมาตามทางโดยใช้ช่องทางขวาสุด บังเอิญมีรถกระบะที่แล่นช้าวิ่งขวางหน้าอยู่จึงเปลี่ยนมาวิ่งเลนกลาง เพื่อแซงซ้ายซึ่งเป็นช่วงใกล้กับจุดกลับรถหน้าหมู่บ้านเบญจทรัพย์ และตอนนั้นก็มีรถยนต์เก๋งนิสสันมาร์ช สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนกำลังจะกลับรถพอดี

จึงรีบบีบแตร 2 ครั้ง ส่งสัญญาณเตือนว่าอย่าเพิ่งกลับรถออกมา เพราะรถตนมาเร็วกลัวจะเบรกไม่ทัน รถคันดังกล่าวจึงหยุดอยู่กับที่ แต่หลังขับผ่านจากจุดกลับรถดังกล่าวได้ไม่กี่เมตร สังเกตเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับไล่ตามหลังมากระชั้นชิด และได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้น 3-4 ครั้งติดต่อกัน

ด้วยความกลัวตนจึงเร่งเครื่องรีบขับรถหลบหนี แต่รถยนต์นิสสันมาร์ชยังขับไล่จี้ตามมา จนมาถึงหน้าปั๊มน้ำมันปตท. ตนตัดสินใจเข้าไปหลบในปั๊มน้ำมัน แต่เพราะขับมาด้วยความเร็วทำให้เลี้ยวไม่พ้น รถพุ่งตกร่องน้ำข้างทาง ส่วนรถคู่กรณีขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

หลังสอบสวนตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุและพื้นถนนตามเส้นทางแต่ไม่พบปลอกกระสุนปืน สอบถามผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกับจุดที่เกิดเหตุให้การว่า เห็นรถยนต์นิสสันมาร์ชสีดำขับผ่านไป โดยมีลักษณะเป็นรถแต่งซิ่งใช้ท่อ ไอเสียแต่ง ที่พอเร่งเครื่องแล้วจะมีเสียงระเบิดดังคล้ายกับเสียงยิงปืน ซึ่งไม่มีใครให้ความสนใจ และไม่มีคนเห็นว่ามีการยิงปืนไล่รถอีกคันหรือไม่

ภายหลังเป็นคดีและภาพเรื่องราวเหตุการณ์ถูกเผยแพร่ออกไปทั้งทาง สื่อมวลชนและโซเชี่ยล วันรุ่งขึ้น นายสิริชัย แก้วกล่อง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170/23 ม.6 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทร สาคร ก็ขับรถนิสสันมาร์ช สีดำ ทะเบียน กง 7289 เพชรบุรี คันที่ตกเป็นข่าวซิ่งรถข่มขู่สาวขับรถยนต์ยาริสจนรถตกข้างทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.โคกขาม เพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น

เจ้าตัวนำภาพจากกล้องหน้ารถนิสสัน มาร์ช มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและยืนยันเจตนารมณ์ว่าไม่ได้มีการขับรถซิ่งตามไปข่มขู่ผู้เสียหายแต่อย่างใดทั้งสิ้น

พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.ท.อดุลย์ เผ่าพันธุ์ศร รอง ผกก.สอบสวน สภ.โคกขาม และ พ.ต.ท.ทวีป เงินดี เจ้าพนักงานสอบสวน ร่วมรับฟังและสอบถาม ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

นายสิริชัยให้การว่า ในวันเกิดเหตุ ตนขับรถไปส่งแฟนที่ทำงาน แล้วกำลังกลับรถกลับไปทำงานที่บ้าน พอมาถึงจุดกลับรถก็ขับออกไปโดยไม่ได้สนใจเสียงแตรหรือเสียงใดๆ เพราะตนจะรีบกลับไปทำงาน ซึ่งเมื่อกลับรถได้แล้วตนก็ขับรถตามปกติไปเรื่อยๆ ทางฝั่งขวา และไม่ได้ขับจี้หรือ ข่มขู่ใคร อีกทั้งยังทิ้งห่างจากรถเก๋งยาริสในระยะห่างพอสมควรอีกด้วย

แต่ตนสังเกตเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวที่ขับอยู่ข้างหน้าฝั่งซ้ายนั้นเสียหลักพุ่งตกลงไปข้างทางเอง ซึ่งตนก็ขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านตามปกติ จนกระทั่งมาช่วงเย็นหลังเลิกงานตนเห็นข่าวและเรื่องราวในเฟซบุ๊ก และคาดว่ารถคู่กรณีที่มีการกล่าวถึงนั้นน่าจะเป็นรถของตน

จึงมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายสาวคนดังกล่าว หรือข่มขู่แต่อย่างใดทั้งสิ้น จึงนำรถมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่าตนไม่มีอาวุธปืน และไม่ได้ยิงปืนเลย ส่วนเสียงที่ดังคล้ายกับเสียงปืนนั้นมาจากเสียงท่อแต่งของรถที่ปลายท่อเท่านั้น

ชายหนุ่มให้การเสร็จก็พาเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาฟังเสียงท่อรถของตน ซึ่งก็พบว่ามีเสียงดังคล้ายเสียงปืนในจังหวะที่เหยียบและถอนคันเร่งจริงๆ ตามที่ให้การ

พล.ต.ต.มานะ จึงสั่งให้ตรวจยึดรถไว้ก่อน เพื่อส่งรถไปตรวจสอบที่สำนักงานขนส่งเรื่องเสียงดัง และส่งไปที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ดูว่าท่อไอเสียที่เปลี่ยนมาผ่านมาตรฐาน มอก.หรือไม่ ซึ่งหากมีความผิดก็จะรวบรวมพยานหลักฐานแล้วแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง

ขณะที่ น.ส.วิไลวรรณ สาวยาริสผู้เสียหายได้เดินทางมาพบกับนายสิริชัย ซึ่งทั้งสองคนได้พูดคุยและปรับความเข้าใจกันอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงเป็นอันว่าเรื่องทุกอย่างยุติลงด้วยดี ภายหลังเข้าใจแล้วว่าเป็นความตกใจและเข้าใจผิด ของตนเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน