ก้องเกียรติ พุทธิรังสิมาภรณ์

เรื่อง/ภาพ

ย้อนไปเมื่อวันที่ 31 ม.ค. เกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าจี้ชิงทรัพย์ ภายในธนาคารกรุงไทย ภายในห้างเทสโก้โลตัส หมู่ 2 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หอบเงินสดเกือบ 6 แสนบาทลอยนวล เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาติดตามสืบสวนไม่ถึง 48 ชั่วโมงก็สามารถจับกุมคนร้ายได้

เมื่อวันดังกล่าว พ.ต.ท.บุญสฤทธิ์ ช่วยชู สารวัตร (สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกรุงไทย ภายในห้าง เทสโก้โลตัส หมู่ 2 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจและฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุพบพนักงานและนายเลียบ ภุมรักษ์ อายุ 36 ปี ลูกค้าธนาคาร ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยความตื่นตกใจ โดยนายเลียบให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนำเงินสด 2 แสนบาทมาฝากธนาคาร ระหว่างทำธุรกรรมอยู่นั้นมีคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อก สวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำ สวมกางเกงขายาวสีดำ บุกเข้ามาใช้ปืนจี้ให้ส่งเงินสด 2 แสน ใส่ถุงที่เตรียมมา ด้วยความกลัวจึงนำเงินใส่ถุงให้ไป จากนั้นคนร้ายยังใช้ปืนจี้ข่มขู่พนักงานเคาน์เตอร์ให้ส่งเงินให้อีกจำนวนหนึ่งก่อนวิ่งหนีออกจากธนาคารไป

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายมีลักษณะเดินขากะเผลก ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีดำ-แดง มาก่อเหตุ จากนั้นหลบหนีโดยใช้เส้นทางถนนบางนา-ตราด มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ

กระทั่งวันที่ 3 ก.พ. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา, นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา, พ.อ.จักรพงษ์ พันธุ์มงคล ผบ.ร.112 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง

ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายรุ่งโรจน์ หรือ เก่ง บุญประกอบ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/5 ม.1 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ตำแหน่ง ผอ.กองสาธารณสุข เทศบาล ต.บางสมัคร ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงินสดธนาคารกรุงไทย สาขาห้างเทสโก้โลตัส บางวัว ได้เงินสดไปทั้งสิ้น 593,890 บาท

ตำรวจจับกุมนายรุ่งโรจน์ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ.44/2561 ลงวันที่ 2 ก.พ. พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีเอ็กซ์ ทะเบียน 1 กฌ 835 ฉะเชิงเทรา สีขาว, อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติพร้อมซองกระสุน, หมวกกันน็อกสีดำ จำนวน 1 ใบ, ถุงมือสีดำ 1 คู่ เสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินเข้ม และหมวกไหมพรมคลุมหน้า ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ

เบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้นับว่าไม่ธรรมดา เพราะผู้ต้องหาทำเป็น ใจดีสู้เสือ ทำตัวเป็นพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือตำรวจเพื่อหวังให้ตายใจ โดยหลังก่อเหตุบุกเดี่ยวจี้ชิงเงินแล้วก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

ขณะที่ตำรวจออกตามเบาะแส กระทั่งพบภาพจากกล้องวงจรปิดคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปภายในหมู่บ้านสุขุมวิท 1 ริมถนนบางนา-ตราด ต.บางสมัคร อ.บางปะกง ซึ่งห่างไปแค่ขับรถ 4 นาที จึงเข้าปิดล้อมตั้งแต่เย็นจนถึงค่ำของวันเกิดเหตุ

กำลังตำรวจตรวจค้น พร้อมขอภาพจากกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านมาตรวจสอบ โดยระหว่างนั้นนายรุ่งโรจน์ยังทำตัวเป็นพลเมืองดีมาให้ข้อมูลพาตำรวจไปดูตามจุดต่างๆ แต่วันเกิดเหตุตำรวจไม่พบร่องรอยคนร้ายว่าออกจากหมู่บ้านแต่อย่างใด จึงมั่นใจว่าคนร้ายน่าจะพักอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่เริ่มสอบสวนพยานแวดล้อมอื่นๆ กระทั่งพบ หลักฐานโยงถึงนายรุ่งโรจน์ ว่ามีรถจักรยานยนต์แบบเดียวกับที่คนร้ายก่อเหตุแต่เป็นคนละสี จึงเฝ้าจับตาก่อนตัดสินใจขอหมายค้นจากศาลเข้าตรวจค้นภายในบ้าน จนพบของกลางจำนวนมาก

นายรุ่งโรจน์ถูกเค้นสอบพร้อมยันด้วยหลักฐานที่พบ สุดท้ายก็ยอมให้การสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารจริง ส่วนเงินสดที่ได้นำเงินไปใช้หนี้สินแทนเพื่อน ที่ถูกติดตามทวงหนี้และมีเส้นตายที่จะต้องใช้ภายในวันที่ 1 ก.พ.

แต่เจ้าตัวไม่ระบุว่าเพื่อนสนิทที่ยินยอมทิ้งอายุราชการที่ทำงาน รับราชการมานานถึง 27 ปีเต็ม และทิ้งตำแหน่งผู้อำนวยการกอง (ระดับ 7) นั้นเป็นใคร พร้อมทั้งยังปฏิเสธด้วยว่าไม่ได้ติดหนี้การพนัน ไม่ได้นำเงินของทางราชการไปใช้ส่วนตัว

โดยระหว่างก่อเหตุก็ทำทีเป็นเดินขากะเผลกเพื่อลวงตาตำรวจ หลังจากลงมือสำเร็จก็ขี่รถกลับเข้าบ้านรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า และลอกเทปพันสายไฟสีดำที่นำมาแปะรอบรถสีขาว เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ จากนั้นทำทีออกมาดูการทำงานของตำรวจรวมทั้งเข้าไปพูดคุยและให้ความร่วมมือนำชี้จุดต่างๆ ภายในหมู่บ้านเพื่อให้ตำรวจตายใจ

หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่คุมตัวนายรุ่งโรจน์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ธนาคารกรุงไทย และเส้นทางหลบหนีท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมารอดู และให้ความสนใจเนื่องจากนายรุ่งโรจน์มีตำแหน่งถึงผอ.กองสาธารณสุข เทศบาล ต.บางสมัคร

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกนาย ที่สามารถจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ได้อย่างรวดเร็วไม่ถึง 48 ชั่วโมงหลังก่อเหตุ ส่วนเงินของกลางที่อ้างว่านำไปให้เจ้าหนี้ เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนขยายผลเพื่อนำเงินกลับคืนมา พร้อมเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

นับเป็นเรื่องดีที่จับคนร้ายได้เร็ว แต่ที่น่าตกใจคือ คนร้ายที่เป็นถึงผอ.กองสาธารณสุข เทศบาล ต.บางสมัคร เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐแท้ๆ แต่กลับมาก่อเหตุทำผิดกฎหมายเสียเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน