ทวีศักดิ์ เดชชู

กฤษณ์ สนใจ

ขวัญเพชร โชคบรรดาลสุข

เรื่อง/ภาพ

เหตุการณ์คนร้ายฉุดหญิงสาวพนักงานร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่นในพื้นที่ ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี เมื่อสามวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา แม้นเป็นเรื่องของคนรักที่เคยคบหากันมาก่อน แต่เมื่อพฤติกรรมอุกอาจประกอบกับหากผู้ก่อเหตุคิดสั้นขึ้นมาหญิงสาวก็อาจได้รับอันตรายได้

ภายหลังญาตินำภาพวงจรปิดในร้านมาโพสต์ เป็นภาพนาทีที่ชายวิ่งตามหญิงสาวเข้าไปล็อกคอจากด้านหลังพร้อมกับลากตัว ออกจากร้าน โดยไม่รู้ว่าพาตัวไปที่ไหน พร้อมระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นอาสาตำรวจบ้านของโรงพักเมืองลพบุรี

พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ลพบุรี จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.อุกฤษ์ ภู่กลั่น รอง ผบก.สส.ภ.จว.ลพบุรี ร่วมกับชุด สืบสวนสภ.เมืองลพบุรี เจ้าของท้องที่เกิดเหตุเร่งสืบสวนติดตามจับตัวมาให้ได้โดยเร็ว ก่อนจะเปิดเผยว่า

เบื้องต้นทราบตัว ผู้ก่อเหตุแล้วคือ นายศุภสิทธิ์ อ้นเพ็ง อายุ 52 ปี หรือ นายหม่อง บ้านอยู่ อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็นอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน เคยมาร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บ่อยครั้ง หลังเกิดเหตุตำรวจตามไปที่พักแต่ ไม่เจอตัว คาดว่าคงจะหลบหนีไปกบดานอยู่ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวน เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะเกรงว่าตัวประกันจะถูกทำร้าย

ขณะที่มารดาของเหยื่อสาวเปิดเผยว่าไม่เห็นลูกสาวกลับมาบ้านก็มีความเป็นห่วงลูกสาวมาก อยากให้ตำรวจรีบตามจับตัวคนที่ลักพาตัวลูกไปให้ได้เร็วที่สุด

ส่วนเพื่อนๆ ของเหยื่อสาวระบุว่านายหม่องมีครอบครัวแล้ว แต่มาติดพันฝ่ายหญิงซึ่งเป็นคนหน้าตาดี ต่อมาระยะหลังๆ เมื่อฝ่ายหญิงรู้เรื่องว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้วจึงตีตัวออกห่าง แต่ฝ่ายชายไม่ยอม ยังตามตื๊ออยู่ตลอดเวลา จนแม่ของฝ่ายหญิงต้องมาคอยรับส่งทุกวัน จนฝ่ายชายไม่มีโอกาส ได้เจอ กระทั่งบุกมาก่อเหตุฉุดขึ้นรถพาหนีไป ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมของเพื่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง

นายธนธรณ์ เมืองลพ อายุ 49 ปี หัวหน้าชุดอส.ตร.สภ.เมือง ลพบุรี เปิดเผยว่ารู้จักกับทั้งสองคนนี้มานานกว่า 4 ปีแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่า นายหม่อง ทำเกินกว่าเหตุและผิดกฎหมายจริง แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับสองคนนี้ไม่นานก็คืนดีกัน จนเพื่อนๆรู้กันว่าเป็นเรื่องปกติ

เงียบหายเหมือนไร้ตัวตนไปมากกว่า 10 วัน ในที่สุดนายหม่องก็จนมุมเมื่อวันที่ 5 ก.พ. โดยตำรวจโรงพักโพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งได้รับข้อมูลของนายหม่องจากตำรวจลพบุรี ก็สามารถจับกุมตัวนายนายหม่องได้ระหว่างที่พาหญิงสาวหลบหนีมากบดานที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 5 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

ชุดสืบสวนสภ.โพธาราม ติดตามจับกุมได้พร้อมของกลาง รถเก๋งโตโยต้า สีขาว กพ 671 ลพบุรี และอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก พร้อมพบตัวหญิงสาวใน สภาพปลอดภัย ก่อนนำตัวมาสอบสวน ที่ สภ.โพธาราม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาต และจะส่งศาลฝากขังเพื่อดำเนินคดีพร้อมทั้งอายัดตัวส่งไปยัง สภ.ลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับต่อไป

ภายหลังรับตัวมาสอบสวนวันที่ 7 ม.ค. พ.ต.อ.อุกฤษ ภู่กลั่น รองผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.พิษณุ พราหมณ์เทศ ผกก.สภ.เมือง จ.ลพบุรี ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุวรรณศรี รองสว.(สอบสวน) และตำรวจชุดสืบสวน ก็นำตัวนายหม่องไปทำแผนประกอบคำ รับสารภาพ

โดยเริ่มตั้งแต่นายหม่องนำรถเก๋งมาจอดซุ่มอยู่ในซอยหมู่บ้านลพบุรีวิวซึ่งอยู่ติดกับร้านสะดวกซื้อ พอสบโอกาสเห็นเหยื่อสาวออกมาทิ้งขยะหน้าร้าน ก็วิ่งเข้าไปฉุดแต่ฝ่ายหญิงสาววิ่งหนีเข้าไปในร้าน นายหม่องจึงตามเข้าไปล็อกคอลากตัวออกมาจากร้าน แล้วขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่ ขับหนีไปทางถนนสายนิคม-โคกตูม

นายหม่องสารภาพว่า ได้ลักพาตัวหญิงสาวมาเนื่องจากกลัวว่าจะตีตัวออกห่างและกำลังไปมีแฟนใหม่ โดยบอกว่าตนเองเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้านช่วยเหลือตำรวจตรวจพื้นที่ และได้เจอกับหญิงสาวขณะออกตรวจร้านสะดวกซื้อ จนมีการขอเบอร์โทรศัพท์กันไว้และติดต่อกันตลอดมา

สุดท้ายตกลงใจคบหาอยู่กินกันมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่เมื่อต้นเดือนมกราคม 2561 ถูกฝ่ายหญิงบอกเลิกทำให้เสียใจมากเพราะรักและอยู่กินกันมานาน ในวันที่ 24 ม.ค. จึงตัดสินใจไปง้อขอคืนดีในเซเว่นฯดังกล่าว แต่ฝ่ายหญิงสาวขัดขืนไม่ยอมไปด้วยจึงลากตัวขึ้นรถมา

“ผมพาเขาไปอยู่ที่บ้านญาติที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ตระเวนหลบซ่อนตัวอยู่ 10 วัน ก็พาไปอาศัยอยู่ที่บ้านญาติที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเคยมาทำบ่อเลี้ยงปลาดุกไว้เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นตั้งใจกันกับหญิงสาวว่าจะลงทุนขายของที่ อ.โพธาราม ไม่กลับไปลพบุรีแล้ว แต่ติดขัดเรื่องเงินเลยจะกลับบ้านที่ลพบุรีเพื่อไปนำเงินที่เพื่อนยืมไป รวมทั้งไปเอาเอกสารรถยนต์และจะนำรถยนต์ไปขาย เพื่อนำเงินมาลงทุนขายของร่วมกันกับหญิงสาว แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน” นายหม่องสารภาพ

ภายหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่เกิดเหตุเสร็จสิ้น ตร.ได้ควบคุมตัวนายหม่องส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “กักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจผู้อื่น โดยใช้อาวุธปืน” ตามที่ศาลจังหวัดลพบุรีอนุมัติตามคำขอ ในส่วนของหญิงสาวพนักงาน เซเว่นฯ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำในเบื้องต้นแล้วก็ได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว โดยขณะนี้ยังคงเก็บตัวเงียบและขอไม่พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

คดีนี้ตำรวจถูกมองว่าเป็นพวกเดียวกับคนร้ายซึ่งเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน เคยช่วยเหลืองานของตำรวจมาเลยมีความเห็นอกเห็นใจกันเป็นพิเศษ การจับกุมนายหม่องจึงเป็นข้อพิสูจน์ว่า ตำรวจทำงานอย่างจริงจังไม่ได้เข้าข้างใคร แต่การสืบสวนจับกุม ย่อมต้องใช้เวลาเป็นเรื่องธรรมดา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน