คดีลุงคลั่งยิงสาวเจ้าของบ้านคนใหม่ดับ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรมบังคับคดี ว่าทำไมขายทอดตลาดบ้านทั้งที่ยังมีคนอยู่ กลายเป็นภาระให้ผู้ซื้อต้องเป็นปัญหา แทนที่จะดำเนินการให้เรียบร้อยเสียก่อน

เหตุการณ์ระทึกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 30 พ.ค. พล.ต.ท. จิรพัฒน์ ภูมิวิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี พ.ต.ท.ธนกฤต อินภู่ รอง ผกก. พ.ต.ท.เดชา แสนหว้า สว.สส. พ.ต.ท.ธวัชชัย รัตน์พาหุ สวป. ร.ต.อ.สริพงษ์ อภิวัน รอง สว. (สอบสวน) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ธัญบุรี สืบ ภ.จว.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจสอบเหตุชายคลั่งยิงคนตายภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หน้าบ้านเลขที่ 39/1706 ซอย 42 หมู่ 1 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ตร.ล้อมบ้าน

 

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ชั้นเดียวปลูกติดกัน กลางถนนพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.กมลพร ดอนทอง อายุ 52 ปี ชาว ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นอนอยู่กลางถนนหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดล้อมพื้นที่พร้อมเจรจากับคนร้ายที่เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน เพื่อให้วางอาวุธปืนแล้วยอมมอบตัว

ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง พ.ต.อ.จิรวัฒน์เข้าไปยืนหน้าบ้านเพื่อเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว แต่ไม่มีการตอบรับจากคนร้าย ทราบชื่อคือ นายเดชา หรือบัง พยัคฆะ อายุ 66 ปี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยได้วิ่งเข้านำร่างหญิง น.ส.กมลพร ออกมา โดยเบื้องต้นพบถูกกระสุนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะและลำตัว ถูกอวัยวะสำคัญเป็นเหตุให้เสียชีวิต

ลูกกอดศพแม่

 








Advertisement

น. ส.กมลพร ผู้ตายมากับลูกสาว มาดูบ้านที่เกิดเหตุ โดยได้ซื้อมาจากกรมบังคับคดีเมื่อต้นปี 2565 เพื่อขายต่อ พร้อมแจ้งเจ้าของบ้านเดิมให้ย้ายออกไป แต่นายเดชาพยายามยื้อผัดผ่อนมาหลายครั้ง จนเลยเวลาที่กำหนดไว้ ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายเข้ามาตัดต้นไม้ที่ขึ้นรกเต็มบ้านออก ทำให้นายเดชา ผู้ก่อเหตุเกิดความเครียด จึงได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดกระหน่ำยิง น.ส.กมลพร จนต้องวิ่งหนีและเสียชีวิตกลางถนนในหมู่บ้าน ส่วนผู้ก่อเหตุอยู่บ้านหลังนี้มา 20 ปีแล้ว และไม่สุงสิงกับใคร ลูกสาวเคยมารับไปอยู่ด้วยแล้วหลายครั้ง แต่ก็ ไม่ยอมไป

เจรจาเกลี้ยกล่อม

 

เวลา 16.30 น. พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ผกก.สภ.ธัญบุรี ได้ใช้โทรโข่งพูดเจรจากับคนร้ายให้มอบตัวอีกครั้ง ซึ่งคนร้ายยังคงหลบอยู่ในบ้าน โดยทางตำรวจได้ติดต่อทางลูกสาวมาพูดเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว พร้อมประสานตำรวจปฏิบัติการพิเศษเข้ามาที่เกิดเหตุ

จากนั้นเวลา 17.15 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือและโล่กันกระสุน ได้บุกเข้าไปเปิดประตูเหล็กหน้าบ้านเพื่อจับกุมตัว แต่นายเดชาได้ใช้อาวุธปืนยิงสวนออกมา กระสุนถูกโล่และหมวกเจ้าหน้าที่ ทำให้ เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยออกมา และปรับแผนในการเข้าไปจับกุมตัวใหม่ โดยนายเดชาร้องขอพบอยากเจอพิธีกรดังรายการโหนกระแส หนุ่ม กรรชัย และ กัน จอมพลัง เพื่อร้องเรียนเรื่องที่ถูกธนาคารโกงบ้าน

ในที่สุด เวลา 20.30 น. นายเดชายอมวางอาวุธปืนแล้วออกมามอบตัว หลังเวลาผ่านมาเกือบ 8 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมพร้อมให้ลูกสาวมาช่วยคุยกับพ่อให้คลายเครียด โดยมี กัน จอมพลัง โทรศัพท์มาช่วยเกลี้ยกล่อมด้วย

สุดท้ายนายเดชาถูกคุมตัวไปดำเนินคดีข้อหา “ฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และเรื่อง พ.ร.บ.อาวุธปืน”

คุมนายเดชา พยัคฆะ ส่งฝากขัง

 

แต่เหตุสยองครั้งนี้ก็ทำเอาทัวร์แห่ไปลงที่กรมบังคับคดีอย่างเลี่ยงมิได้ นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี ต้องรีบออกมาชี้แจงว่า กรณีที่ผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี โดยได้ชำระราคาค่าซื้อทรัพย์ และได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดินแล้ว หากผู้ซื้อพบว่าเจ้าของเดิม และบริวารยังอาศัยอยู่ในทรัพย์ดังกล่าว ผู้ซื้อสามารถร้องขอต่อศาล เพื่อขอให้ศาลมีหมายบังคับคดี ขับไล่เจ้าของเดิมและบริวารออกจากทรัพย์ดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่ แต่หากเจ้าของเดิมและบริวารยังไม่ย้ายออก ผู้ซื้อทรัพย์ก็ยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีรายงานศาลขอให้ออกหมายจับเจ้าของเดิมและบริวาร ซึ่งเป็นขั้นตอนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้

นางทัศนีย์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ หากผู้ซื้อทรัพย์ประสงค์ที่จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเชิญเจ้าของเดิมมาเจรจาหาทางออกร่วมกันก็ทำได้ ขณะเดียวกัน เจ้าของเดิม ก็ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดเจรจา ไกล่เกลี่ยกับผู้ซื้อทรัพย์ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีดังกล่าวอาจนำไปสู่การระงับข้อพิพาทด้วยความสมานฉันท์ และเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายได้โดยไม่ต้องดำเนินการบังคับคดีต่อไป ทั้งนี้ หากต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี หรือขั้นตอนในการบังคับคดี สอบถามเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ที่สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ หรือสอบถามที่สายด่วนบังคับคดี โทร. 1111 ต่อ 79 หรือค้นหาข้อมูลได้จาก www.led.go.th

นพรัตน์ คุ้มศรี

วสันต์ ทิพย์ประโภชน์ เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน