คุกสามารถทำให้ผู้ต้องโทษกลับเนื้อกลับตัวได้จริงหรือ? คำถามที่ว่านี้ยังมีข้อชวนสงสัย เพราะยังเห็นคนที่ออกจากคุกกลับไปก่ออาชญากรรมเหมือนเดิมอีก ซ้ำร้ายยังมีพฤติกรรมการก่อเหตุที่แยบยล สลับซับซ้อนยิ่งขึ้นราวกับที่เข้าไปติดคุก คือการไปเข้าคอร์สอัพสกิล เช่นกรณีของ นายกิติรัช ทับทิม หรือ อั๋น บางใหญ่ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง

ตร.บุกถึงห้องเช่า

 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น./ รองหน.PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี, พ.ต.ต. ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ, พ.ต.ต.ภัสส์กร เฉลียวบุญ, ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น, ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร, ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) ร่วมจับกุมตัวนายกิติรัช ทับทิม หรืออั๋น อายุ 25 ปี ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ที่บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือน พ.ค.2565 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายหลายรายถูกนักต้มตุ๋นหลอกขายเครื่องเล่นเกม PS5 จนเหล่าสาวกพ่อบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนกันระงม ซึ่งต่อมา วันที่ 10 พ.ค.2565 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. (ดำรงตำแหน่ง ผบก.สส.ภ.2 ในขณะนั้น) นำกำลังเจ้าหน้าที่ ชป.5 ศปอส.ตร. หรือ PCT 5 รวบตัวมิจฉาชีพรายดังกล่าวได้คือ นาย กิติรัช ทับทิม (อั๋น บางใหญ่)

แสดงหมายจับ

 

ในชั้นจับกุมนายกิติรัชรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้ให้คำมั่นสัญญาแบบลูกผู้ชายกับ พล.ต.ต.ธีรเดช ไว้ว่า “จะกลับตัวกลับใจ ไม่กลับไปหลอกลวงผู้อื่นอีก” แต่มันเป็นเพียงการแสร้งตีหน้าเศร้า “ดราม่าสำนึกผิด” เพราะหลังจากนำตัวเข้าซังเต นายกิติรัชได้กลับออกมาใช้ชีวิตในโลกภายนอกได้ไม่นาน เจ้าตัวได้ออกพเนจร ออกเดินทางไปทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้








Advertisement

ที่สำคัญยังตระเวนก่อเหตุฉ้อโกงเช่นเดิมจนกระทั่งถูกออกหมายจับเพิ่ม ซ้ำร้ายยังพัฒนารูปแบบการกระทำความผิดให้แยบยลกว่าเดิม

พล.ต.ต.ธีรเดชเห็นว่าหากปล่อย “เข้น้อย” รายนี้ไปภายหน้าต้องเป็น “ชาละวัน” อย่างแน่แท้ จึงสั่งการเจ้าหน้าที่ชุด PCT 5 และสืบนครบาลนำกำลังติดตามจับกุมตัว จากการลงพื้นที่สืบสวนไปได้ระยะหนึ่ง นายกิติรัชมีพฤติกรรมระวังตัวเป็นอย่างยิ่งเพราะเคยถูกจับกุมตัวมาแล้ว เรียกได้ว่า “ไร้เงา”

จนมุมเพราะเล่นเกม

 

แต่ไม่มีอาชญากรรมใดที่สมบูรณ์แบบ อาชญากรย่อมทิ้งร่องรอยเสมอ สำหรับนายกิติรัช ก็มีสิ่งหนึ่งที่เคยพูดกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ไว้ว่าตนเองชอบเล่นเกม “GTA FiveM” ซึ่งเป็นเบาะแสเดียวที่ยัง หลงเหลือ เจ้าหน้าที่จึงอำพรางตัวเข้าไปเล่นเกมดังกล่าว พร้อม พูดคุยสืบสวนหาเบาะแส จนกระทั่งนำมาสู่การจับกุมตัวนายกิติรัช

คราวนี้เจ้าตัวรับสารภาพว่าก่อเหตุหลอกขาย PS5 และหลอกเก็บเงินค่าประกันหอพักจากกลุ่มนักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก โดยการเซฟรูปภาพหอพักจากอินเตอร์เน็ตมาใช้ หลอกลวงนักศึกษาไปหลายราย และตนเพิ่มความแยบยล เพื่อให้ยากต่อการแกะรอยเส้นทางการเงิน โดยจะไม่ใช้บัญชีม้า แต่จะหลอกเอาบัญชีของผู้อื่นมาใช้ผ่านทางชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งเจ้าของบัญชีเหล่านั้นเป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่เล่นเกมด้วยกัน

เมื่อเงินผู้เสียหายถูกโอนเข้ามายังบัญชีแล้ว ตนจะไม่ให้โอนเข้าบัญชีตัวเอง แต่จะขอรหัสกดเงิน (OTP) ของบัญชีและไปกดเงินสดออกจากบัญชีแทน ซึ่งการกระทำลักษณะนี้ทำให้เงินไม่ผ่านบัญชีตัวเอง เพื่อสร้างความซับซ้อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามจับกุมตัวยากขึ้น แต่ไม่คาดคิดว่าตำรวจจะแฝงตัวเข้ามาในเกมที่ตนเล่นอยู่ คาดไม่ถึงจริงๆ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สามเสน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

คุมตัวดำเนินคดี

 

พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า การแฝงตัวเป็นเทคนิคการสืบสวนมาตั้งแต่โบราณ หากแต่ยังคงเป็นวิธีการที่คลาสสิค และมีประสิทธิภาพอยู่ เพียงแต่เราเอามาปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัยเท่านั้น กรณีของ นายกิติรัช แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราจะรีบทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.

สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัยเรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน