“ฆ่าน้องกูทำไม ฆ่าน้องกูทำไม” เสียงตะโกนด้วยความโกรธแค้นของญาติ น.ส.ศิริวรรณ เกตุทอง หรือ จอย อายุ 39 ปี ชาว ต.ท่าข้าม อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ที่ตะโกนถาม นายณรงค์วิทย์ เพชรศรีเมือง สามีของน.ส.ศิริวรรณ ด้วยความโกรธแค้นและพยายามเข้าทำร้าย ภายหลัง เจ้าตัวทำร้ายภรรยาอย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิต ทิ้งลูกชายทั้ง 4 คนต้องเป็นกำพร้า และอยู่ในวัยกำลังเรียน เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นผู้ส่งเสียดูแลลูกๆ ทั้ง 4 คนเพียงคนเดียว
เรื่องราวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ร.ต.อ.สถาพร บุตตะกะ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายได้รับ บาดเจ็บบริเวณถนนเส้นวัดพระนอนจักรสีห์ หมู่ที่ 2 ต.จักรสีห์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับอาสาสมัครสมาคมร่วมกตัญญู
ทำแผนฯ นาทีฆ่า
ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กฉ 3066 สิงห์บุรี จอดอยู่ริมถนนข้างทาง ตรงพงหญ้า ข้างทางพบร่างน.ส.ศิริวรรณ เกตุทอง หรือ จอย อายุ 39 ปี ได้รับ บาดเจ็บที่บริเวณหน้าหลายแห่งนอนสลบอยู่ อาสาฯ ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วรีบนำส่งเข้าห้องโรงพยาบาลสิงห์บุรีทันที
ตำรวจสืบสวนทราบว่าคนร้ายคือ นายณรงค์วิทย์ เพชรศรีเมือง สามีของน.ส.ศิริวรรณนั่นเอง จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บ้าน ของน.ส.ศิริวรรณพบว่า นายณรงค์วิทย์ได้ขับรถ จยย.ออกจากบ้านหลังดังกล่าวไปในเวลาใกล้เคียงที่น.ส.ศิริวรรณเลิกงานจากโรงงาน แห่งหนึ่งในอำเภอพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
ร้อง ‘กัน จอมพลัง’
Advertisement
ญาติๆ ให้ข้อมูลว่า นายณรงค์วิทย์อยู่กินเป็นสามีภรรยาได้ 10 กว่าปีแล้ว มีลูก 4 คน ช่วงหลังๆ มีการทะเลาะกันบ่อย ฝ่ายสามีก็ชอบด่าว่าภรรยา ซึ่งญาติๆ คาดว่านายณรงค์วิทย์ระแวงภรรยาว่าจะมีชู้ มักจะแอบไปดักซุ่มดูภรรยาที่ทำงานบ่อยๆ จนกระทั่งคืนเกิดเหตุนายณรงค์วิทย์ไปดักภรรยาอีก คาดว่าหลังเจอกันตรงที่เกิดเหตุจะทะเลาะกันแล้วนายณรงค์วิทย์ได้ทำร้ายภรรยา
หลังรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลสิงห์บุรี ได้ 2 วัน น.ส. ศิริวรรณก็สิ้นใจ ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัว
ผ่านมาหลายวันแต่ตำรวจยังจับกุมผัวโหดไม่ได้ ทำให้ครอบครัวต่างอยู่ด้วยความหวาดผวา จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก ‘กัน จอมพลัง’ ซึ่งได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสิงห์บุรี พร้อมติดต่อตัวแทนสำนักงานยุติธรรม จ.สิงห์บุรี ตัวแทนจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายวิทยา ยางสุด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี และมี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ตันเจริญรัตน์ ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี ร่วมหารือในการช่วยเหลือบุตรชายทั้ง 4 คนของผู้เสียชีวิต รวมทั้งเร่งรัดการติดตามจับตัวคนร้าย พร้อมฝากถึงคนร้ายที่เป็นพ่อของเด็กว่า ถ้าดูอยู่พ่ออย่าหนี ทำเป็นตัวอย่างที่ดี ให้กลับมารับโทษ รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป
ผัวค้อนโหดโผล่มอบตัว
ตีห้าเศษวันที่ 6 มิ.ย. นายณรงค์วิทย์ก็ทนแรงกดดันไม่ไหว โผล่เข้ามอบตัวที่สภ.เมืองสิงห์บุรี ยอมรับสารภาพว่าทำไปด้วยอารมณ์หึงหวง โดยในวันเกิดเหตุไปดักรอที่หน้าที่ทำงานของภรรยาตน เมื่อเลิกงานจึงได้ขี่รถตามน.ส.ศิริวรรณ แล้วทะเลาะกันมาตลอดจนถึงที่เกิดเหตุได้ดักหน้ารถจยย. เมื่อภรรยาลงมาได้ใช้ค้อนที่นำมาด้วยฟาดไปที่หลังและบริเวณใบหน้า หลังจากนั้นก็รีบขี่รถหนีกลับมาที่บ้าน เปลี่ยนชุดที่ใช้ก่อเหตุและนั่งเล่นกับลูกชายก่อนทำทีให้ลูกชายโทร.หาแม่ เมื่อลูกชายโทร.แล้วรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรับจึงรีบขี่รถ จยย.หลบหนีไปอาศัยที่บ้านญาติที่จ.ขอนแก่น จากนั้นได้ให้ญาติโทร.ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอมอบตัวดังกล่าว
ต่อมาหลังจากที่นายเจตนา อายุ 31 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต พร้อมญาติๆ ทราบว่านายณรงค์วิทย์จะมามอบตัววันนี้ จึงพากันมาที่สภ.สิงห์บุรี ด้วยอารมณ์โกรธแค้น พอเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายณรงค์วิทย์ ออกจากห้องขังเพื่อขึ้นรถนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสิงห์บุรี
ญาติตะโกนด่า
ญาติๆ ของผู้เสียชีวิตต่างฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี ญาติคนหนึ่งของผู้เสียชีวิตชกเข้าที่บริเวณศีรษะของนายณรงค์วิทย์ ญาติอีกคนทุบรถ พร้อมตะโกนด่าและถามว่า “ฆ่าน้องกูทำไม” โดยญาติๆ ต่างตะโกนด่าผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้นอย่างหนัก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งขับรถนำผู้ต้องหาไปทันที
พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ตันเจริญรัตน์ ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี กล่าวว่า ผู้ต้องหามามอบตัวตามหมายจับ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในเวลา 07.00 น. ณ บริเวณที่เกิดเหตุ นายณรงค์วิทย์ยอมรับสารภาพว่าทำไปด้วยอารมณ์หึงหวง จึงนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสิงห์บุรีต่อไป
อำนาจ สุขเย็น เรื่อง/ภาพ
