ภาพเหตุการณ์ชายฉกรรจ์รายหนึ่งกำลังทำร้ายร่างกายผู้หญิงกลางถนน โดยใช้หมวกกันน็อกทุบพร้อมทั้งกระชากสร้อยของเธอ
ก่อนใช้ค้อนทุบรถเก๋งของฝ่ายหญิงจน เสียหาย ซึ่งผู้โพสต์เฟซบุ๊กรายหนึ่งนำเผยแพร่บนโลกโซเชี่ยล ระบุว่าไปพบเห็นกับตาคล้ายเหตุชิงทรัพย์ ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา
ผู้โพสต์รีบโทร.แจ้ง 191 แต่กลัวตำรวจมาช้า ขับรถเวียนเพื่อตามหาตำรวจไปยันด่านชายแดนมาเลเซีย แต่ด่านปิด เมื่อเวียนกลับไปจุดเกิดเหตุอีกครั้งเห็นตำรวจมาถึงแล้ว
คลิปนาทีลงมือโหด
คลิปดังกล่าวเป็นที่โจษจันวงกว้างในโลกออนไลน์ ว่าสรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ย้อนกลับไปเมื่อกลางดึกวันที่ 4 มิ.ย. สภ.สะเดา จ.สงขลา รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายในซอยกาญจนรุจิ 3 บ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบาลสำนักขาม จึงรีบแจ้งตำรวจสายตรวจเข้าระงับเหตุทันที
ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งมาสด้า สีเงิน ทะเบียน 7กฐ 2786 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพถูกทุบทำลายพังยับเยินทั้งคัน
กระจกประตูข้างทั้งสองฝั่งแตกหลุดหมด กระจกหน้ากระจกหลังแตก ไฟท้ายแตกตัวรถยุบ
Advertisement
บริเวณพื้นถนนพบร่างหญิงสาวอายุ 45 ปี นอนอยู่บนพื้นถนนในอาการมึนงง เสื้อผ้าถูกฉีกขาด หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลสำนักขาม ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งรักษาที่ร.พ.สะเดา
รถพังยับ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ พบกล้องอีกมุมบันทึกเหตุการณ์ขณะทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะกัน เป็นภาพชายคนก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตามรถเก๋งของหญิงรายดังกล่าวไปจอดคุยกันตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนทั้งคู่มีปากเสียงกัน
จู่ๆ ชายคนก่อเหตุฉุดกระชากตัวผู้หญิงลงจากรถและทำร้ายร่างกายจับศีรษะอีกฝ่ายโขกกับพื้น รวมทั้งใช้ค้อนทุบรถเก๋งจนเละทั้งคัน
แม้ภาพจากกล้องวงจรปิดจะอยู่ในระยะไกล แต่มองเห็นพฤติกรรม ขณะทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างชัดเจนและนานเกือบครึ่งชั่วโมง
ขณะเกิดเหตุก็มีผู้คนขับรถผ่านไปมา แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และอาจกลัวอันตรายหากฝ่ายชายอาจมีอาวุธร้ายแรงอย่างปืน ที่ยุคสมัยนี้ซื้อหาง่ายราวกับขนมขบเคี้ยว
ก่อนที่ตำรวจและรถหน่วยกู้ชีพจะมาถึง
ส่งผู้เสียหายรักษาตัว
สาวเคราะห์ร้ายให้การว่า คนก่อเหตุไม่ใช่โจรผู้ร้ายที่ไหน แต่คือด.ต.พงศักดิ์ รจนัย อายุ 51 ปี ผบ.หมู่ ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล ผัวของเธอเอง ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามจังหวัดมาจากเมืองลุง เพราะทั้งหึงและหวง บวกกับไม่พอใจที่เธอมาร่วมปาร์ตี้ฉลองวันเกิดเพื่อนที่ผับชื่อดังในสะเดา
ฝ่ายชายไปตามถึงงานจนเธอต้องขับรถเผ่นออกมา แต่ตัวผัวก็ซิ่งมอเตอร์ไซค์ประกบเรียกให้จอดคุยกัน ก่อนจะอาละวาดงัดค้อนที่พกมาทุบรถจนพังยับ ลากตัวเธอออกมาจากรถจับหัวโขกพื้น จนตำรวจมาช่วยเหลือไว้ได้
เมื่อได้คำให้การจากปากเหยื่อ ประกอบภาพจากคลิปในโซเชี่ยล และวงจรปิดที่พบเพิ่มเติม ตำรวจสะเดาก็จัดเต็มขออำนาจศาลออกหมายจับทันที
ช่วงสายของวันรุ่งขึ้น ผู้บังคับบัญชาจากสภ.เมืองสตูล พาตัวนายดาบค้อนดุไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวนถึงโรงพักสะเดา
ซากรถในจุดเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่แจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย 1.ใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ
ส่วนข้อหาที่ 2 คือชิงทรัพย์ เพราะภาพจากคลิปขอพลเมืองดีเห็นชัดเจนว่านายดาบกระชากสร้อยออกจากคอของเมียรักที่นอนกองอยู่ที่พื้น
ร้อยเวรสอบปากคำอยู่ร่วม 3 ชั่วโมง แต่ตำรวจมือค้อนพิโรธก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเพื่อนร่วมอาชีพ ยืนยันปฏิเสธให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ขอไปให้การที่ศาลเท่านั้น
เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดนาทวี พร้อมคัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาลก็เห็นชอบด้วยไม่อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว ส่งเทพเจ้าธอร์ไทยสไตล์เข้าไปนอนใน เรือนจำ
มอบตัวที่สภ.สะเดา จ.สงขลา
ขณะที่ต้นสังกัดก็ไม่ปกป้องลงนามใน คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันควัน
คดีนี้นับเป็นอีกหนึ่งบรรทัดฐานภายใต้ ผบ.ตร.ชื่อพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ที่ย้ำนักย้ำหนาให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างศักดิ์สิทธิ์และเท่าเทียม
ต่อให้เป็นตำรวจด้วยกัน เมื่อทำความผิดก็ห้ามปากว่าตาขยิบช่วยเหลือกันเด็ดขาด
อนงค์ วงศ์ช่วย
เรื่อง/ภาพ
