เพราะความจริงนั้นมีเพียงหนึ่งเดียว คำให้การของนายการุญ อยู่สำราญ อายุ 30 ปี ที่อ้างว่าแย่งมีดกับแฟนสาวรุ่นพี่ในรถจนถูกมีด ปาดคอบาดเจ็บและรถเสียหลักพุ่งตกหนองน้ำจนฝ่ายหญิงเสียชีวิตจึงไม่มีใครเชื่อ กลายเป็นเพียงลมปากที่พ่นออกมาเพื่อปิดบังความผิดของตน

ย้อนไปเมื่อค่ำวันที่ 8 มิ.ย. พ.ต.ท.รัตนดล แหวดกระโทก สารวัตร(สอบสวน) สภ.เพนียด จ.ลพบุรี รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกแทงเสียชีวิตอยู่ภายในรถกระบะที่จมสระน้ำกลางไร่อ้อย ต.ดงมะรุม อ.โคกสำโรง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ภูการวิก โชติกเสถียร รองผบก.ภ.จว.ลพบุรี ฝ่ายสืบสวน นักประดาน้ำสมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์

พฐ.เก็บหลักฐาน

 

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะตกลงไปจมอยู่ในสระน้ำ หน่วยกู้ภัยลงไปตรวจสอบพบเป็น รถกระบะอีซูซุ สีเทา ทะเบียน ฒภ 7626 กทม. เมื่อลากรถขึ้นมาพบศพหญิงอยู่ภายใน ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นันทรัตน์ นิลมาลา อายุ 45 ปี บ้านอยู่ ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี มีแผลถูกแทงเข้ากลางหน้าอกและลำตัวนับ 10 แผล โดยภายในรถพบมีดทำครัวตกอยู่ 1 เล่ม

สอบสวนทราบว่ามีชาวบ้านพบ นายการุญ อยู่สำราญ อายุ 30 ปี บ้านอยู่ต.หนองม่วง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี นอนบาดเจ็บมีแผลถูกมีดปาดคอนอนอยู่กลางไร่อ้อยจึงแจ้งกู้ภัยช่วยเหลือนำตัวส่งร.พ. ซึ่งขณะให้ความช่วยเหลือนายการุญชี้ไปในสระน้ำว่ามีรถกระบะจมอยู่และมีคนติดอยู่ ก่อนที่จะมาพบรถกระบะพร้อมผู้เสียชีวิตจมอยู่ในสระน้ำ

นายการุญ อยู่สำราญ มือมีด

 








Advertisement

หลังได้ข้อมูลว่าทั้งสองเหตุน่าจะเกี่ยวข้องกัน ชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวน รุดไปดูอาการนายการุญ ซึ่งมีบาดแผลที่ลำคอลึกประมาณ 1 ซ.ม. กว้าง 19 ซ.ม. พอให้การได้โดยเล่าว่าช่วงเวลา 16.00 น. วันที่ 7 มิ.ย.ไปรับผู้ตายจาก อ.พัฒนานิคมเพื่อมาพบญาติครอบครัวของตนที่ อ.หนองม่วง เพื่อพูดคุยยุติความสัมพันธ์เพราะอายุที่ห่างกันถึง 15 ปี ตนขอยุติความสัมพันธ์ต่อหน้าญาติและครอบครัว

หลังจากนั้นขับรถกลับฝ่ายผู้ตายใช้มีดที่เตรียมมาปาดคอตนเองก่อนจนบาดเจ็บ เกิดการต่อสู้กันในรถ ตนบันดาลโทสะจ้วงแทงจนฝ่ายหญิงเสียชีวิตคารถตั้งแต่ช่วงเวลา 16.00 น. ของวันที่ 7 มิ.ย จากนั้นขับรถวนเวียนไปมาจนน้ำมันหมด จึงโทร.วานเพื่อนให้เอาน้ำมันมาเติม หลังจากนั้นก็ได้ขับรถวนเวียนไปมาบนเส้นทางดังกล่าวจนรุ่งเช้าถึงสาย

นายการุญระบุว่า ตนรู้สึกว่าจะไม่รอดเช่นกัน เนื่องจากเลือดออกมาก จึงตัดสินใจขับเข้าไปในไร่อ้อยเจอสระน้ำขนาดใหญ่ จึงขับรถพุ่งลงไปเพื่อดับชีวิตตาม แต่เกิดความกลัว กระเสือกกระสนหนีออกมาจากรถ ว่ายน้ำเข้าฝั่งตะเกียกตะกายไปนอนอยู่บนไร่อ้อยจนมีชาวไร่มาพบ

แม้คำให้การจะร้อยเรียงเรื่องราว ลำดับเวลาเป็นขั้นตอน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด เพราะยังมีที่ขัดแย้งกับพยานหลักฐานที่พบ โดยเฉพาะเรื่องที่ฝ่ายหญิงใช้มีดทำร้าย เรื่องขับรถลงน้ำเพื่อฆ่าตัวตาย หรือเรื่องที่ขอยุติความสัมพันธ์แล้วฝ่ายหญิงไม่ยอม

รถกระบะคันเกิดเหตุ

 

ที่สำคัญตำรวจได้ข้อมูลจากญาติของน.ส.นันทรัตน์ ว่าทั้งสองคนคบหาอยู่ด้วยกันมาประมาณ 7-8 เดือน ระยะหลังนายการุญ หรือต้น มีปัญหาหึงหวงรุนแรง โดยเฉพาะเวลาดื่มเหล้าจะเอะอะโวยวายทำลายข้าวของ ลงมือทุบฝ่ายหญิง เพื่อนร่วมงานเคยได้ยินนายต้นประกาศว่ากูจะฆ่าปาดคอตายทั้งครอบครัวอีกด้วย โดยฝ่ายที่เป็นคนขอเลิกคือฝ่ายหญิงไม่ใช่ฝ่ายชายตามที่อ้าง

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสอบปากคำนายการุญ ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวยังคงอ้างว่าขณะที่ขับรถไปรับแฟนรุ่นพี่เพื่อจะมาเคลียร์ปัญหาในเรื่องของครอบครัว เกิดมีปากเสียงกัน โดยฝ่ายหญิงใช้มีด ปาดคอตนจนเกิดการยื้อแย่งมีด และตนก็ใช้มีดแทงที่ร่างของ น.ส.นันทรัตน์ จนแน่นิ่งไป จากนั้นจอดรถนอนอยู่กับศพอยู่ 1 คืน

ช่วยหนุ่มโหด

 

แต่คราวนี้เจ้าตัวรับว่าที่รถตกลงไปในน้ำไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตาย ภายหลังเกิดเหตุตนคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป จึงได้จอดรถนอนอยู่กับศพข้ามวัน จนกระทั่งรุ่งเช้ามีชาวบ้านผ่านมาจึงขับรถย้ายไปจอดริมบ่อน้ำ ก่อนที่จะกลับรถแต่รถเกิดเสียหลักวิ่งตกลงไปในบ่อน้ำ ทำให้ตนต้องใช้เท้าถีบกระจกรถด้านหลังจนแตก และมุดเอาตัวรอดออกมาจากรถได้ ก่อนที่จะเดินมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับ ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” และหากผลการชันสูตรศพของน.ส.นันทรัตน์ ออกมาแล้วและมีสาเหตุเพิ่มเติมก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป

กฤษณ์ สนใจ / ทวีศักดิ์ เดชชู
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน