อดิศร จิตตเสวี
สุรัตน์ สรรพคุณ
พนม คงเจริญ
เรื่อง/ภาพ
ที่ผ่านมาราชการพยายามรณรงค์เรื่องเมาไม่ขับ ให้กลับแท็กซี่ดีกว่า แต่เหตุการณ์ที่นักร้องสาวเมาหลับบนรถแล้วถูกแท็กซี่หื่นพาเข้าโรงแรม มันช่างเป็นอะไรที่สวนทางกันเสียนี่กระไร
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 มี.ค. น.ส.อินทุอร ดีบุกคำ อายุ 22 ปี หรือ น้องแอล นักร้องในวงคิงก่อนบ่ายก๊อปปี้วาไรตี้ โชว์ เพลง ?ประจำเดือนไม่มา? อยู่บ้านเลขที่ 65 ถนนประชาอุทิศ ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อให้หาตัวคนขับรถแท็กซี่ ที่แฝงมาในคราบของคนร้ายจะกระทำอนาจาร พาตนเองเข้าโรงแรม
น้องแอลเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 มี.ค. หลังกินข้าวที่ร้านอาหารย่านราชพฤกษ์ ฝั่งธนบุรี แล้วขึ้นรถแท็กซี่ สีแดง ทห 6270 กรุงเทพมหานคร จะกลับบ้านย่านรัชดาฯ ด้วยความเมาพอขึ้นรถบอกที่หมายเสร็จก็เลยเผลอหลับไป
มาตื่นอีกครั้งพบว่านอนอยู่บนเตียงในโรงแรมแห่งหนึ่ง เห็นคนขับรถแท็กซี่อายุประมาณ 30 ปี เดินมาในสภาพเปลือยกาย และขึ้นมาไซ้ซอกคอตน “หนูจึงร้องโวยวาย ขึ้นว่าทำไมพาหนูมาที่นี่ ทำไมไม่พาไปส่ง ที่บ้าน ถอดเสื้อผ้าทำไม” คนขับจึงบอกว่า เห็นน้องหลับ จึงพามานอนที่โรงแรม ไม่ได้ทำอะไร ที่ถอดเสื้อเพื่อจะอาบน้ำเฉยๆ ตนรีบเช็กเงินในกระเป๋าก็พบหายไป ถามแท็กซี่บอกไม่รู้เรื่อง
พอตั้งสติได้ตนก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งโลเกชั่นให้พี่ชายพร้อมโทร.ตามให้ พี่ชายมารับ โชเฟอร์แท็กซี่ก็ออกอาการลนลานมาก พูดขึ้นว่า “น้องอย่าบอกใครนะ พี่ขอโทษ ส่วนเงินเดี๋ยวพี่คืนให้” คนร้ายก็โยนเงินคืนมาให้ 200 บาท แล้วรีบออกไปจากห้องทันที
ตนจึงรีบวิ่งตามออกมาบอกพนักงานโรงแรมและคนรับรถจดทะเบียนไว้ได้ ก่อน จะรู้ว่าโรงแรมดังกล่าวอยู่ย่านลาดพร้าว จึงได้มาเข้าแจ้งความกับตำรวจ
หลังรับแจ้งชุดสืบสวนรีบไปที่โรงแรม ที่เกิดเหตุ เพื่อขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนพบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยช่วงค่ำวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธินสามารถตรวจสอบจนได้เบาะแสของรถแท็กซี่คันดังกล่าวแล้ว พบว่าทะเบียน หมวด ทห 6270 กรุงเทพมหานคร มี นายอดิเรก หรือ เอ เลิศลภ อายุ 41 ปี เป็นคนขับ โดยเป็นรถในโครงการ “แท็กซี่ OK” ของกรมการขนส่งทางบก ทำให้ง่ายต่อการติดตาม
เนื่องจากทุกคันต้องติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบ เช่น จีพีเอส แทร็กกิ้ง ซึ่งจะแสดงตัวตนของผู้ขับรถ ระบุพิกัดเส้นทางการเดิน รถและการใช้ความเร็ว บริเวณที่นั่งผู้โดย สารจะมีปุ่มฉุกเฉินในกรณีที่ผู้โดยสารต้อง การความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องบันทึกภาพในรถที่เชื่อมต่อผ่านศูนย์บริการรถแท็กซี่ของเอกชน และต้องเชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการแท็กซี่ ของกรมการขนส่งทางบกด้วย เพื่อส่งข้อมูลการเดินรถแบบเรียลไทม์ด้วย
ชุดสืบสวนดิ่งไปที่กรมการขนส่งทางบกทันที เพื่อประสานขอดูภาพจากรถแท็กซี่ทะเบียนดังกล่าว แล้วก็ไม่ผิดหวังเมื่อกล้องที่บันทึกคลิปในห้องโดยสารของรถแท็กซี่คันดังกล่าว พบว่าเมื่อ 00.35 น. ของวันที่ 22 มี.ค. รถแท็กซี่อยู่บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยลาดพร้าว 25 ซึ่งกล้องเห็นหน้าโชเฟอร์แท็กซี่อย่างชัด เจน และเห็นน.ส.แอล สาวผู้เสียหายนอนหลับอยู่ที่เบาะข้างคนขับ
เมื่อหลักฐานชัดเจน ตร.จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา ในข้อหา “กระทำการอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ก่อนร่วมประชุมวางแผนจับกุมตัว
ตีสองวันที่ 24 มี.ค. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนก็จับกุมตัวนายอดิเรกได้ โดยวางแผนลวงนายอดิเรกให้มารับผู้โดยสารที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งไม่ผิดหวัง เมื่อรอไม่นานนายอดิเรกก็ขับรถแท็กซี่คันเดิมเข้ามาให้จับถึงที่
สิบเอ็ดโมงวันเดียวกัน พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงศ์หอมหวล ผกก.สน.พหลโยธิน พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พหล โยธิน ร่วมกันแถลงจับกุมนายอดิเรก
พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์กล่าวว่า จากการสอบ สวนผู้ต้องหาได้ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้พยายามข่มขืนผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าในคืนเกิดเหตุได้รับผู้เสียหายมาจากร้านอาหารย่านถนนราชพฤกษ์ เพื่อไปส่งย่านห้วยขวางจริง เมื่อใกล้ถึงที่หมายได้พยายามถามว่าจะให้ส่งที่ไหนแต่ผู้เสียหายหลับไม่ได้สติ
ด้วยความหวังดีจึงได้เลี้ยวเข้าโรงแรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้เข้าไปพักล้างหน้าล้างตาเท่านั้น ส่วนตนก็เข้าไปอาบน้ำและเป็นจังหวะที่ผู้เสียหายตื่นขึ้นมา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ เนื่อง จากผู้เสียหายยืนยันว่าขณะเกิดเหตุยังพอมีสติและคนร้ายยังได้ขโมยเงินกว่า 2,000 บาทหลบหนีไป รวมถึงคนร้ายเป็นผู้จ่ายค่าห้องพักโรงแรมด้วย หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวตำรวจได้นำตัวนายอดิเรกไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาฯ
ต่อมา น.ส.อินทุอรได้เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อชี้ตัวผู้ต้องหา พร้อมกล่าวว่า ตอนที่ชี้ตัวผู้ต้องหาก็ยังไม่ยอมกล่าวขอโทษตนทั้งที่ทำเรื่องนี้ขึ้น อย่างไรก็ตามยอมรับว่าคืนเกิดเหตุตนเมา เพราะได้ไปดื่มกินกับเพื่อนมา
“ขอให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์สอนผู้หญิงทุกคน ส่วนตัวก็ยอมรับในส่วนที่เมาไม่มีสติ และแต่งตัวล่อแหลม ตรงนี้ยอมรับผิด ซึ่งจะเมายังไงก็แล้วแต่ต้องมีสติ ขึ้นแท็กซี่ให้ถ่ายทะเบียนรถส่งให้คนที่บ้านรู้ทุกครั้ง ตอนนี้ไม่กล้าไปไหนคนเดียวอีกแล้ว เข็ดมาก” เจ้าตัวเสียงสั่นกล่าวพร้อมยกมือไหว้
