ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวเล็กๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งก็คือกรณีที่ นายทวารัฐ สูตะบุตร ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน มีแนวคิดเตรียมเชิญผู้ค้าน้ำมันมาหารือ
โดยมีประเด็นสำคัญคือการขอความร่วมมือกับผู้ค้าน้ำมันทุกราย ไม่ให้ข่าวผ่านสื่อตามช่องทางต่างๆ ก่อนปรับราคาน้ำมัน
เพราะมีผู้ค้าน้ำมันตั้งแต่ 2 รายขึ้นไปปรับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในอัตราเท่ากัน ในเวลาเดียวกัน ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำผิดที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของนโยบายส่งเสริมการแข่งขัน ตามเจตนารมณ์ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า
พร้อมให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามตรวจสอบป้องปรามการกระทำลักษณะนี้ เพื่อให้กลไกในธุรกิจการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงโปร่งใส และเป็นธรรมมากที่สุด
หมายความว่าต่อไปนี้ผู้ใช้น้ำมันจะต้องไปลุ้นกันหน้าปั๊มว่าราคาวันนี้น้ำมันแต่ละชนิดอยู่ที่เท่าไหร่
หากใครละเมิดแจ้งการปรับขึ้นหรือลดก่อนย่อมมีความผิดตามกฎหมาย!??
สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า สิ่งที่สนพ. กระทรวงพลังงาน เป็นห่วง คือการแข่งขันระหว่างผู้ค้าน้ำมัน ด้วยการปิดหูปิดตาประชาชน หรือลูกค้าที่ควรจะได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์หรือ?
อยากให้ในอนาคต ใครเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันไหน ไปเสี่ยงดวงกันเอาเองว่าราคา เท่าไหร่ แล้วก็ให้ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ไปอย่างง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?
เพราะแน่นอนว่าการค้าเสรีสำคัญ แต่การได้รับข่าวสารที่เป็นประโยชน์อย่างเพียงพอสำหรับผู้บริโภคก็สำคัญไม่แพ้กัน
เหตุใดเมื่อการแจ้งปรับขึ้นหรือลดราคาน้ำมันของผู้ค้าบางรายเป็นปัญหา ทำไมไม่กำหนดให้ผู้ค้าทั้งหมดต้องแจ้งต่อประชาชนให้เหมือนกันทั้งหมด
แน่นอนใครไม่ทำก็ได้ แต่ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา
ความเท่าเทียม การแข่งขันอย่างเป็นธรรม คือการยกระดับการจัดการให้ดีขึ้น ไม่ใช่ไปลดทอนคุณภาพให้แย่ไปพอๆ กัน
น่าเสียดายที่คิดได้เพียงแค่นี้ และยิ่งสงสัยว่าในฐานะที่รับเงินเดือนจากภาษีประชาชน
ใครสำคัญกว่ากันระหว่างผู้ค้า กับประชาชน