สำนวนกำลังภายในที่เอ่ยอ้างอยู่เสมอมักจะเริ่มต้นและจบลงด้วยประโยคที่ว่า “มันผู้ใดใช้ดาบ ก็มักจะตายด้วยดาบ”

เหมือนกับคำว่า ตายตกไปตาม “กรรม”

ก็อย่างที่คำคมจากความจัดเจนในสังคมตะวันตกที่ว่า “คำพูด” เมื่อยังไม่ออกมาจากปาก เราเป็นนาย

เพราะว่าจะพูดอย่างไรก็มีสิทธิ์ในการเลือกสรรได้

แต่พลันที่ “คำพูด” ออกมาจาก มันก็เป็น “นาย”

เช่นนี้เองสำนวนไทยแต่โบราณกาลจึงมีคำว่า “ปลาหมอตายเพราะปาก” ติดอยู่ดังที่ท่าน “รามจิตติ” ได้สรุปเอาไว้อย่างรวบรัดยิ่งว่า “อนึ่ง เราเป็นคนไม่ใช่นกแก้วนกขุนทอง อย่าปล่อยให้ใครๆ เอาของเหลวไหลมากรอกหูแล้วเก็บมาขยายโวขึ้นเลย”

“จงจำไว้ว่า “ปลาหมอตายเพราะปาก”

อันท่าน “กาญจนาคพันธุ์” แสดงความหมายเอาไว้อย่างรวบรัดว่า “พูดพล่อยไปจนตัวต้องเป็นอันตราย”

ไม่ว่ากรณีของนักพูดอย่าง อรพิมพ์ รักษาผล ไม่ว่ากรณีของนักพูดอย่าง ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ ล้วนมีบทเรียนอย่างอุดมสมบูรณ์

ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ เป็น “นักพูด” ระดับ “ครู”

สร้างตัวเองจากสมาคมฝึกพูดแห่งประเทศไทยยุคเดียวกับ ไขแสง สุกใส ยุคก่อนหน้า วีระ มุสิกพงศ์ เล็กน้อย

ประสบความสำเร็จทางการพูดกระทั่งผันตัวเองไปเป็น “นักการเมือง”

เป็นนักการเมืองซึ่งได้ชื่อว่า “น้ำดี” ในสังกัดพรรคพลังธรรม ที่นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แต่วันดีคืน

ร้ายเมื่อ ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ เสนอ “ระเบิดน้ำมันหมู” เพื่อแก้ไขวิกฤตความขัดแย้ง วิกฤตแห่งสงคราม

ชื่อเสียงที่สั่งสมมาของ ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ ก็ต้องนับถอยหลัง

ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ เป็นเช่นนี้ อรพิมพ์ รักษาผล ก็จะเป็นเช่นนี้

กระนั้น คำถามก็คือ แม้บทสรุปที่ว่า “ปลาหมอตายเพราะปาก” เป็นที่ยอมรับในบทบาทและความหมายมาตั้งแต่แผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

แต่เคยมีใครอยากรู้ไหมว่า ทำไมปลาหมอต้องตายเพราะปาก

ท่าน “กาญจนาคพันธุ์” อันเป็นร่างเงา 1 ของ ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า) อธิบายเอาไว้ในหนังสือ “สำนวนไทย” อันลือลั่นของท่านว่า

คือปลาหมอเวลาอยู่ใต้น้ำจะพ่นน้ำขึ้นมาเห็นปุดๆ ที่ผิวน้ำ

คนตกเบ็ดเห็นผิวน้ำเป็นฟองปุดๆ ก็รู้ว่าที่ตรงนั้นมีปลาหมอ เอาเหยื่อล่อตกเบ็ดขึ้นมาได้จึงได้ชื่อว่า “ปลาหมอตายเพราะปาก”

นี่ย่อมเป็น “อุทาหรณ์” สอนใจสำหรับ “นักพูด”

ลองสืบสาว ทวนความจากกรณีของ อรพิมพ์ รักษาผล ก็จะประจักษ์ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและดำเนินไป

ความรู้สึกที่คนอีสานบังเกิดขึ้นอยู่ๆ ก็มโนหรือนึกคิดเอาเองอย่างนั้นหรือ ไม่ใช่หรอก เป็นคำพูดอันองอาจสง่างามจากปากช่างจำนรรจ์ของ อรพิมพ์ รักษาผล ต่างหาก

ปากของ “อรพิมพ์” นั่นแหละที่สร้างและทำลาย “อรพิมพ์”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน