สดจากสนามข่าว
อธิคม สิงขรณ์ / ณัฐวุฒิ ทิพย์ประโยชน์ / นรินทร์ เนียมประดิษฐ์ – เรื่อง/ภาพ
ความผิดหวังในความรัก นำมาซึ่งความเสียใจ หากไม่รู้จักวิธีรับมือกับความเศร้าเสียใจ ย่อมเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรง คดีพิศวาสฆาตกรรม ร้อยทั้งร้อยล้วนมีต้นเหตุมาจากสิ่งนี้
ย้อนไปเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 พ.ย. พ.ต.ต.ชยพัทร์ สุขสมบูรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ว่าเกิดเหตุมีคนใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.จันทบุรี
หลังได้รับแจ้งจึงเดินทางตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร ร.พ.พระปกเกล้า เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย ในที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ภายในบ้านพบศพของน.ส.ธิฐิมา เอามิตรดี อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายประกันชีวิตของบริษัทไฟแนนซ์เอกชนแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี
สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับเหนือกกหูด้านขวา 1 นัด กระสุนฝังใน โดยในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .22 แม็กกาซีน ตกอยู่บนพื้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนญาติและบุคคลใกล้ชิดที่พักอาศัยอยู่บ้านหลังติดกัน ได้ความว่าผู้ตายพักอยู่คนเดียว ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องปัญหาความรัก
ผู้ตายคบหากับสาวดี้รุ่นน้องคนหนึ่งซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน แต่เกิดมีปัญหาระแวงเกรงอีกฝ่ายจะไปมีคนอื่น เจ้าหน้าที่กู้ภัย นำร่างผู้เสียชีวิตส่ง ร.พ.พระปกเกล้า เพื่อให้ทางแพทย์นิติเวช ตรวจชันสูตรหาร่องรอยหลักฐาน เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
ถัดมาวันที่ 18 พ.ย. พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.นฤดม มารศรี ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา พร้อมชุดสืบสวนนำกำลังเข้าจับกุมตัว นายพรชัย หรือ หนุ่ม แสงปรั่ง อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง นางวิภารัตน์ สวัสดี อายุ 42 ปี ผู้เป็นภรรยา เสียชีวิตภายในบ้านพักในอ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ภายหลัง เกิดเหตุนายพรชัยหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่เพิงพัก ไม่มีเลขที่ในเขต หมู่ 3 ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
ตำรวจกว่า 30 นาย ควบคุมตัวนายพรชัยไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ บริเวณบ้านที่เกิดเหตุท่ามกลางกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตและชาวบ้านที่มามุงดูการทำแผน ต่างพากันตะโกนสาปแช่งและฮือจะเข้าทำร้าย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันให้ออกห่าง
การทำแผนเริ่มจากบริเวณซุ้มยาดองที่นายพรชัยเข้าไปซื้อมาดื่ม และกลับเข้าบ้านพักพบเห็นนาง วิภารัตน์นั่งเล่นเฟซบุ๊กอยู่บนที่นอน และกำลังคุยอยู่กับชายอื่น
นายพรชัยอ้างกับตร.ว่า ตนเข้าไปสอบถาม กลับถูกนางวิภารัตน์ต่อว่าต่างๆ นานา และให้ชายในโทรศัพท์ด่าตนเองด้วย จึงเกิดความโมโหคว้าเอาอาวุธมีดแทงเข้าที่บริเวณหลัง 2 ครั้ง ระหว่างนั้น ผู้ตายได้ตะโกนให้ลูกชายที่อยู่ใกล้ๆ ช่วยแจ้งตำรวจ
นายพรชัยจึงแทงซ้ำที่กลางหลังอีกหลายครั้งแล้วลุกไปเอาเชือกพยายามจะจับลูกชายของผู้ตายมัด แต่ลูกชายวิ่งหลบหนีไป แล้วไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน นายพรชัยจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมเงินสดของผู้ตาย นายพรชัยให้การรับสารภาพว่า ตนเองมีอาชีพเป็นช่างสัก ก่อนหน้านี้เคยต้องโทษคดียาเสพติดและคดีชิงทรัพย์ เพิ่งจะพ้นโทษมารับจ้างสัก และคบหากับผู้ตาย
ระยะหลังจับได้ว่าผู้ตายนอกใจแอบไปมีชายอื่น และมีการทะเลาะกันอย่างรุนแรงหลายครั้ง จนล่าสุดทนไม่ไหวจึงได้ใช้อาวุธมีดแทงนางวิภารัตน์เสียชีวิตดังกล่าว
คดีสุดท้ายเกิดขึ้นเวลา 12.30 น. วันที่ 24 พ.ย. เมื่อพ.ต.ต.พิเชฐ อามาตย์พล สว.(สอบสวน) สน.จระเข้น้อย รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในซ.ลาดกระบัง 48 แขวงและเขตลาดกระบัง กทม.
ที่เกิดเหตุบริเวณกลางซอย พบศพ นายพนม อร่ามเรือง อายุ 55 ปี พนักงานขับรถเก็บขยะประจำสำนักงานเขตลาดกระบัง นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน 5 กน 4379 กรุงเทพฯ ด้านข้างต่อเติมพ่วงเป็นร้านขายส้มตำ-ไก่ย่าง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ที่ขมับขวาทะลุซ้าย ข้างตัวพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ ภายในมีกระสุนคาอยู่ 10 นัด
ส่วนคนเจ็บชื่อ นางวาสนา วงค์ขาว อายุ 39 ปี แม่ค้าส้มตำ-ไก่ย่าง ถูกยิงเข้าที่ลำคอ ไหล่ซ้าย และที่ฝ่ามือขวา อาการสาหัสมีผู้นำส่งรักษาตัวที่ร.พ.ลาดกระบัง ไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง
จากการสอบสวนญาติของนายพนม ผู้ตายได้ความว่า ผู้ตายคบหากับคนเจ็บได้ประมาณปีเศษ โดยช่วงที่คบหาผู้ตายเป็นฝ่ายให้เงินฝ่ายหญิงใช้ตลอด
ต่อมาทั้งคู่มีปัญหากัน เนื่องจากฝ่ายชายระแวงว่าฝ่ายหญิงแอบไปมีชายอื่น จนมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นฝ่ายหญิงได้หนีออกจากบ้านไปเมื่อเดือนก่อน ฝ่ายชายออกตามหากระทั่งมาเจอจึงได้ก่อเหตุสลดขึ้น
เหตุฆาตกรรม 3 คดี เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ล้วนมีปมเหตุมาจากความผิดหวังในความรักทั้งสิ้น!
