สดจากสนามข่าว
ณัฐวุฒิ ทิพย์ประโภชน์ เรื่อง/ภาพ
เป็นข่าวชวนสยองขวัญไปทั่วจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อมีผู้พบศพเด็กชายวัยเพียง 3 ขวบ ถูกนำมาทิ้งริมถนนสายอยุธยา-เสนา ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 19-20 หมู่ 2 ต.สามกอ อ.เสนา กว่าจะมีคนมาพบ ศพก็ถูกสัตว์กัดแทะกินเป็นที่น่าอนาถ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 17 พ.ย. พ.ต.ต.ชาญชัย สงศิริ สารวัตร(สอบสวน) สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุพบศพเด็กชาย อายุประมาณ 3 ขวบ สภาพไม่สวมใส่เสื้อผ้า ถูกนำมาทิ้งอยู่โคนต้นกอไผ่ ริมถนนสายอยุธยา-เสนา ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 19-20 หมู่ 2 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เกตุอร่าม ผกก.สภ.เสนา พ.ต.ท.สกรี ผ่องโอภาส รอง ผกก.สส. ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลเสนา และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณโคนต้นกอไผ่ ริมถนนใกล้กับคลองขนมจีน พบศพเด็กชายถูกทิ้งอยู่ในสภาพนอนตะแคง เสื้อกล้ามสีเหลืองถูกรูดไปไว้ที่คอ ไม่สวมใส่กางเกง บริเวณหัวไหล่ซ้ายมีรอยถูกสัตว์กัดแทะ ตรวจสอบตามร่างกายแล้วไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย เบื้องต้นเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน ใกล้กันพบถุงพลาสติกใส่ผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้าผู้หญิงตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บมาไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายขวัญ มอน อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา ที่พบศพคนแรก ให้การว่าขณะกำลังเดินไปซื้อของที่ร้านค้าผ่านบริเวณ โคนต้นกอไผ่ริมถนน เห็นตัวเงินตัวทองกำลังกัดแทะศพเด็กอยู่ ทีแรกคิดว่าเป็นตุ๊กตา จึงไปชวนเพื่อนมาดูก็พบว่าเป็นศพเด็กจริงๆ จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
ขณะที่พ.ต.ต.ชาญชัย เปิดเผยว่าจากการสอบถามชาวบ้านในบริเวณใกล้จุดพบศพ ไม่มีใครเคยเห็นหรือรู้จักกับเด็กคนนี้มาก่อน น่าจะเป็นเด็กนอกพื้นที่หรืออาจเป็นลูกของแรงงานต่างชาติ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเด็กน่าจะป่วยแล้วเสียชีวิต จากนั้นพ่อแม่เด็กกลัวความผิดจึงเอาศพมาทิ้งไว้
เจ้าหน้าที่ส่งศพเด็กน้อยไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตตามระเบียบ
คดีมาพลิกเมื่อมีผู้แจ้งข้อมูลว่า สงสัยว่าเด็กที่เสียชีวิตจะเป็นเด็กที่พักอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงในหอพักแห่งหนึ่ง อยู่ไม่ไกลที่เกิดเหตุ โดยพ่อเลี้ยงเป็นคนโมโหร้าย มักทุบตีเมียและลูกเลี้ยงบ่อยครั้ง ต่อมาทั้งเด็กและแม่กับพ่อเลี้ยงหายหน้าไป 2-3 วันแล้ว
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เกตุอร่าม ผกก.สภ.เสนา รีบรายงานให้ พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รับทราบความคืบหน้า ก่อนร่วมกับ พ.ต.ท.สกรี ผ่องโอภาส รองผกก.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน ติดตามตรวจสอบข้อมูลที่ได้ รับแจ้ง จนทราบว่าศพเด็กชายที่พบคือ ด.ช.จิรานุวัฒน์ จอกจาน อายุ 3 ขวบ ก่อนชุดสืบสวนติดตามไปจับกุมตัว นายภาณุวัตร บุญรักษ์ อายุ 27 ปี พร้อมกับ น.ส.กาญจนา จอกจาน อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ ด.ช.จิรานุวัฒน์ได้ที่ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
หลังควบคุมตัวมาสอบสวน ที่ สภ.เสนา นายภาณุวัตรให้การรับสารภาพว่า ลงมือฆ่าด.ช.จิรานุวัฒน์จริง โดยตนมีอาชีพเป็นพนักงานโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา คบหากับน.ส.กาญจนา ซึ่งมีลูกติดมาจากสามีเก่า 2 คน อาศัยอยู่ด้วยที่หอพักหลังโรงพยาบาลศุภมิตรเสนา ต.บางนมโค อ.เสนา
ด.ช.จิรานุวัฒน์ ลูกเลี้ยงมักจะชอบร้องงอแงเป็นประจำ หลายครั้งก็อุจจาระ ปัสสาวะเลอะเทอะ คืนวันที่ 16 พ.ย. ด.ช.จิรานุวัฒน์ส่งเสียงร้องดังไม่ยอมหยุด ตนโมโหมากใช้ไม้แขวนเสื้อตีไปหลายครั้งจนเด็กสลบไป
จากนั้นจึงอุ้มลูกเลี้ยงเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนใช้สายยางเปิดน้ำใส่จมูกเด็กแล้วทิ้งไว้ในห้องน้ำ จนเวลา 02.30 น. น.ส.กาญจนาได้เข้าไปดูลูกชายในห้องน้ำพบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงมาบอกกับตน ด้วยความกลัวความผิดจึงตัดสินใจเอาศพลูกเลี้ยงห่อใส่ผ้าปูที่นอนพร้อมเอาเสื้อผ้าปิด และเดินออกมาจากหอพัก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร นำศพมาโยนทิ้งตรงจุดเกิดเหตุ แล้วพากันหลบหนีก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับกุมตัวดังกล่าว
น.ส.กาญจนาแม่แท้ๆ ของเด็กให้การว่า สามีเป็นคนอารมณ์ร้อน ตนกับลูกเคยถูกทุบตีและซ้อมเป็นประจำ ตอนที่เกิดเหตุตนได้แต่นอนคลุมโปงด้วยความกลัว ได้ยินเสียงลูกร้องและถูกตีแต่ไม่กล้าออกไปช่วยประกอบกับไม่คิดว่าลูกจะตาย
รอจนสามีสงบลงจึงเข้าไปดูลูกในห้องน้ำพบว่าเสียชีวิตแล้ว เกรงว่าจะมีความผิดด้วยจึงช่วยนำศพไปทิ้งก่อนพากันหลบหนี
หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กับนายภาณุวัตรพ่อเลี้ยงโหด ก่อนควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่หอพักใน ต.บางนมโค จุดที่ทุบตี และภายในห้องน้ำที่ใช้สายยางกรอกน้ำเข้าจมูกจนเสียชีวิต และนำศพไปทิ้งที่ริมถนน ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้านที่มามุงดูการทำแผน
พ.ต.อ.สมบัติกล่าวว่า ในเบื้องต้นยังไม่มีการตั้งข้อหาแม่ของเด็ก ต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะภรรยาของผู้ต้องหา ถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาช่วยลูก เพราะคิดว่าจะเหมือนกับทุกวันที่ลูกร้องงอแงแล้วถูกตี แต่หากสอบสวนพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกดำเนินคดี
