ย้อนคดีรวบ2หนุ่มขี้ยา! ตระเวนลักทรัพย์ทั่วกรุง ทั้งที่เพิ่งออกสถานบำบัด

พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี เรื่อง/ภาพ

“ยาเสพติด” ลองผู้ใดเสพติดเข้าไปแล้วย่อมยากที่จะถอนตัว เสียการเสียงาน เสียอนาคต ตามมาด้วยปัญหาอีกสารพัน ความรู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดีเลือนหายไป ทำได้ทุกอย่างขอเพียงให้ได้เงินทองมาซื้อยาเสพ ลัก วิ่ง ชิง ปล้นเอาหมด

เช่นเดียวกับ 2 หนุ่ม ติดยามาตั้งแต่รุ่นๆ แม้นอายุใกล้หลักสี่แต่ก็ยังเลิกไม่ได้ โชคชะตาพัดพาให้ทั้งคู่มาพบเจอรู้จักกันในสถานบำบัดยาเสพติด แทนที่จะช่วยกันเลิกยา กลับตัวกลับใจเป็นคนดี กลับพากันใช้ชีวิตดิ่งลงเหวลึกกว่าเก่า

เรื่องราวของทั้งคู่เปิดเผยขึ้นเมื่อ วันที่ 6 ธ.ค. พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส สว.สส. พ.ต.ต.กอบศักดิ์ โพธิ์วารี สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย

ร่วมกันจับกุมนายจักรพันธ์ กระแส อายุ 38 ปี และนายเริงรบ หรือ โอ๋ นิยมกิตติวงศ์ อายุ 36 ปี

พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก. สน.โชคชัย แถลงผลงาน

พร้อมของกลาง พระเลี่ยมทอง จำนวน 2 องค์ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์ เอ็กซ์ สีดำแดง ทะเบียน 5 กข 5699 กทม. และกระเป๋าหนังสีขาว ข้างในบรรจุอุปกรณ์งัดแงะ โดยชุดสืบสวนบุกไปจับกุมนายจักรพันธ์ได้ภายในซอยสาธุประดิษฐ์ 57 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. ส่วนนายเริงรบถูกรวบตัวภายในแฟลตห้วยขวาง เขตดินแดง กทม.

พ.ต.อ.สุพลเปิดเผยเรื่องราวเบื้องหลังการจับกุมทั้งคู่ว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา นายอภิชาติ รักพานิช ผู้เสียหายซึ่งพักอยู่บ้านเลขที่ 184 ซ.ลาดพร้าว 53 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กทม. ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ว่าเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าไปลักเอาทรัพย์สินจำนวนหลายรายการจากภายในบ้าน

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบพบมีร่องรอยการงัดที่บริเวณประตูรั้วเหล็กและประตูบ้านด้านหน้า ที่บริเวณชั้นสองของตัวบ้านมีการรื้อค้นทรัพย์สิน ข้าวของเครื่องใช้กระจัดกระจาย โดยคนร้ายได้ทรัพย์สิน ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำน้ำหนักรวมประมาณ 13 บาท โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง จำนวน 2 เครื่อง และแหวนทองคำ จำนวน 3 วง

จากนั้นทางตำรวจ สน.โชคชัย ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อเก็บร่องรอยลายนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐาน

ขณะเดียวกันชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 20 ต.ค. กล้องสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี โดยเป็นชายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์ เอ็กซ์ สีดำแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน

1.ค้นหาของกลาง 2.นายจักรพันธ์ กระแส

ตํารวจไล่ตามตรวจสอบกล้องวงจร ปิดตามเส้นทาง จนพบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายขับขี่รถหลบหนีออกทางแยกโชคชัย มุ่งหน้าแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว จากนั้นทางตำรวจได้สืบสวนติดตามต่อ จนในที่สุดก็ได้ภาพและทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว

ตรวจสอบทะเบียนจนรู้ตัวผู้ครอบครอง ว่าคือนายจักรพันธ์ พักอยู่ย่านบางโพงพาง วันนี้ชุดสืบสวนจึงนำกำลังไปตรวจสอบและสามารถจับกุมตัวนายจักรพันธ์ได้พร้อมของกลาง คือ พระเลี่ยมทอง จำนวน 2 องค์ รถจักรยานยนต์ และเสื้อผ้าที่ใช้ ในวันก่อเหตุ

หลังจำนนต่อหลักฐานนายจักรพันธ์ให้การรับสารภาพ ก่อนขยายผลไปจับกุมตัวนายเริงรบ หรือโอ๋ พร้อมของกลางอีกจำนวนหนึ่ง จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สน.โชคชัย

ผกก.สน.โชคชัยกล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่ารู้จักกันระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษ หลังจากได้รับการปล่อยตัวมาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาก็ไม่รอช้า ชวนกันลงมือตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์

โดยนายจักรพันธ์นั้นมีความชำนาญด้านการโจรกรรมทรัพย์สิน จึงชักชวนนายเริงรบออกตระเวนก่อเหตุดังกล่าว ส่วนทรัพย์สินที่ขโมยมาได้ทั้งคู่จะเอาไป แบ่งกันในห้องน้ำปั๊มเอสโซ่ ก่อนถึงแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว จากนั้นต่างคนต่างแยกย้ายกันหลบหนีไป

1-2 ภาพวงจรปิด 3 ชุดสืบตามจับถึงบ้าน

ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังให้การว่าเคยก่อเหตุมาทั้งหมด 7 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม จนถึงเดือนพฤศจิกายน โดยตระเวนก่อเหตุไปทั่ว โดยลงมือในพื้นที่ย่านโชคชัย 1 ครั้ง ย่านเจริญนคร 2 ครั้ง ย่านนางเลิ้ง 1 ครั้ง ย่านจอมทอง 1 ครั้ง และในพื้นที่ จ.นนทบุรี อีก 2 ครั้ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมประสานโรงพักพื้นที่ที่เคยถูกก่อเหตุให้มาอายัดตัวต่อไป