วิเคราะห์การเมือง

พลันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำเอาหนุ่มวัย 19 แห่งคลองสามวามาแถลงพร้อมกับเรียกขานว่าเขาเป็น “แฮ็กเกอร์” ก็ก่อให้เกิดอาการฮือฮาเป็นอย่างสูง

โดยเฉพาะในแวดวง “โซเชี่ยล มีเดีย”

กล่าวสำหรับการรายงานที่ปรากฏตาม “สื่อ” กระแสหลักโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์อันถือว่าเป็น “สื่อกระดาษ” ก็ดำเนินไปตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปรารถนาให้เป็น

นั่นก็คือ มองว่าหนุ่มวัย 19 แห่งคลองสามวาเล่นบทของ “แฮ็กเกอร์”

แต่ความสงสัย คลางแคลงใจ อันปรากฏผ่านแวดวงของ “โซเชี่ยล มีเดีย” อันถือว่าเป็นช่องทางการไหลของข่าวสารในกระบวนการแห่ง “สื่อกระจก” ดำเนินไปในกระสวนที่ไม่ค่อยเชื่อเท่าใดนักว่าหนุ่มวัย 19 จะเป็น “แฮ็กเกอร์” แม้จะถูกระบุว่าใช้ออนไลน์ในการซื้อขายปืนก็ตาม

ข้อสงสัย 1 เห็นได้จากอุปกรณ์อันถูกระบุว่าเป็น “ของกลาง” ไม่ว่าคู่มือการเจาะ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ค่อนข้างจะล้าสมัย

ล้าสมัยกระทั่งไม่เชื่อว่าจะสามารถเล่นบท “นักเจาะ” ได้

 

พลันที่แฮ็กเกอร์ระดับโลกอย่าง ANONYMOUS เผยแพร่คำแถลงโดยระบุว่า การกดปุ่ม เอฟ 5 ไม่เรียกว่าเป็น “การแฮ็ก”

1 ก็เริ่มรู้แล้วว่า หนุ่มวัย 19 แห่งคลองสามวาอยู่ในกระบวนการ เอฟ 5

ขณะเดียวกัน อีกข้อมูล 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ เพราะเป็นการยืนยันออกมาว่า กลุ่ม ANONYMOUS เป็นคนเจาะข้อมูลและปล่อยข้อมูลนั้นออกมา

โดยระบุอย่างเฉียบขาดว่า “ไม่ใช่เด็กพวกนั้น”

ตรงนี้แหละที่ทำให้ชื่อของปฏิบัติการ “เด็กปาก้อนหิน” อันมาจาก “พลเมืองต่อต้าน Single Gateway” เริ่มแสดงบทบาทและความหมาย ตรงนี้แหละทำให้คำว่า “เด็ก” และคำว่า “ปาก้อนหิน” สะท้อนว่าพวกเขาต้องการอะไรในการตั้งชื่อ

เหมือนกับเป็นการย้อนยุคไปยัง “ก้อนหิน” อันเป็นเรื่อง “ดึกดำบรรพ์”

 

หากไม่มีการโต้แย้งกันระหว่างฝ่ายที่ป้องกัน “เว็บไซต์” กับฝ่ายที่ต้องการทะลวงเข้าไปแสดงบทบาทต่อ “เว็บไซต์” ชาวบ้านคงมองไม่เห็นความแตกต่าง

1 ความแตกต่างของปฏิบัติการ “ปาก้อนหิน” กับ ปฏิบัติการ “แฮ็ก”

ที่เว็บไซต์หลายเว็บไซต์ของ “หน่วยราชการ” เกิดอาการล่ม ไม่สามารถปฏิบัติการได้ในระดับหนึ่งนั้นมิได้เป็นการแฮ็ก หากแต่เป็นการถล่มโดยการกด เอฟ 5 อย่างชนิดรัว รัว

ขณะเดียวกัน 1 การแฮ็กเป็นเรื่องของ “แฮ็กเกอร์” ซึ่งอยู่เหนือระดับ เหนือชั้นขึ้นไป

กระนั้น ปฏิบัติการครั้งนี้ก็เท่ากับแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นการ “ปาก้อนหิน” ไม่ว่าจะเป็นการเจาะทะลวงในลักษณะ “แฮ็ก” ก็ยากลำบากในการป้องกัน

เป้าหมายจริงๆ น่าจะอยู่ที่การตรวจสอบเรื่อง “ประสิทธิภาพ” มากกว่า

 

มองจากมุมของคนไทยก็ย่อมเอาใจช่วย “รัฐบาล” เอาใจช่วย “คสช.” แทบจะทุกลมหายใจเข้าและออก

คนไทยต้องการเห็น “ประสิทธิภาพ” ของรัฐบาล ประสิทธิภาพของคสช. โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่รับประกันในเรื่อง “ประสิทธิภาพ” ในทาง “เทคโนโลยี” ของไทย

รูปธรรมที่สำคัญก็คือ ต้องจัดการกับ “แฮ็กเกอร์” ให้จงได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน