‘ปู’ถอนฎีกาโฟร์ซีซั่นส์ ศิริโชค-เทพไท-ชวนนท์ รอดตายทางการเมือง
‘ปู’ถอนฎีกาโฟร์ซีซั่นส์ – กลายเป็นจดหมายสำนึกผิดฉบับลับๆ ล่อๆ สังคมจำได้ชัดถึงจดหมายเปิดผนึกลงชื่อ ศิริโชค โสภา เทพไท เสนพงศ์ และ ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต “ขออภัยและขอบคุณ” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แม้ข้อความที่โพสต์จะปรากฏสู่สาธารณะเป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนจะถูกลบออกไม่เหลือให้เห็นกันอีก ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความไม่จริงใจ
ที่สุดจดหมายสำนึกผิดปรากฏอีกครั้ง โดยนายศิริโชค ผู้โพสต์ระบุว่า เหตุผลที่ลบออก เพราะเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ดูข่าว ติดต่อเพื่อน ไม่ได้ใช้เป็นพื้นที่ในการโพสต์ประเด็นการเมืองหรืออื่นๆ นอกจากนี้ก็ยังเป็นข้อตกลงกับตัวแทนโจทก์ว่า หลังจากโพสต์และเป็นที่รับรู้ของสาธารณะแล้ว ก็สามารถเอาลงได้ คล้ายๆ กับการแถลงข่าว
แต่ที่ยันจาก นรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ทนายซึ่งประกอบไปด้วยตนกับนาย สมหมาย กู้ทรัพย์ ต้องการให้จำเลยคงข้อความขอโทษผ่านเฟซบุ๊กของจำเลยที่ 2 จนกว่าจะพ้นกำหนดระยะเวลาของวันที่ 19 ต.ค. ซึ่งศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา
เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ใจของจำเลยทั้งสามว่ามีความสำนึกผิดและมีเจตนาที่จะให้โจทก์ให้อภัยต่อจำเลยทั้งสามอย่างแท้จริง
นี่เอง จดหมายจึงต้องกลับมาโชว์หรา อีกครั้ง
3 สหายแห่งพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ผู้ดำเนินรายการสายล่อฟ้า ระบุ สำนึกผิดแล้ว ในวันที่คดีกำลังจะขึ้นสู่ศาลฎีกา
คดีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นฟ้องทั้ง 3 คนเป็นจำเลยต่อศาลอาญาในความผิดฐานหมิ่นประมาท ปรากฏตามคดีหมายเลขดำที่ อ.630/2557 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.2708/2558 โดยวิธีการโฆษณาด้วยการดำเนินรายการสายล่อฟ้า ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องบลูสกาย ในขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
กรณีนายกฯ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจ (ว.5) ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ แต่นายศิริโชค นายเทพไท และนายชวนนท์ จัดรายการโดยนำป้ายที่ใช้แขวนหน้าห้องพักของโรงแรม ปรากฏข้อความว่า “เอาอยู่” มานำเสนอในรายการ
พูดเฮฮาประกอบด้วยว่า “ห้องนี้เอากันอยู่ หรือแขกก็เอากันอยู่ อ๊ะๆๆๆๆ และปูโฟร์ซีซั่นส์ ปูว.5 ปูเอาอยู่ เยอะมากๆ นะฮะ คำกล่าวขานท่านนายกเนี่ย”
ข้อความและการกระทำดังกล่าว ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษาว่าเป็นความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ให้จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 50,000 บาท และศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 ต.ค.นี้
มูลเหตุแห่งจดหมายสำนึกผิด มาจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มอบหมายให้ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ยื่นถอนฎีกาในคดีดังกล่าวต่อศาลฎีกาในวันที่ 8 ต.ค.
ระบุจากคนใกล้ชิด อดีตนายกฯ ให้อภัย เมตตา และไม่อยากจะทำลายอนาคตทางการเมืองของอดีตส.ส.ทั้ง 3 คน เพราะหากศาลฎีกาตัดสินว่าอดีตส.ส.ทั้ง 3 คนมีความผิด นอกจากจะต้องถูกจำคุก ยังขาดคุณสมบัติการลงรับสมัครส.ส. ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองอีก 5 ปีด้วย
เผยจากทนายนรวิชญ์ จำเลยทั้ง 3 คน ติดต่อผ่าน วัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ขอให้โจทก์ยื่นคำร้องถอนฎีกา โดยจำเลยทั้ง 3 สำนึกผิดในการกระทำที่เกิดขึ้น และขออภัยต่ออดีตนายกฯ ในฐานะโจทก์
ทนายความกล่าวด้วยว่า คดีดังกล่าวอดีตนายกฯ ได้ดำเนินการฟ้องร้องเพื่อความเป็นธรรมและเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี เมื่อศาลพิจารณาข้อเท็จจริงตัดสินว่า การกระทำของจำเลยมีความผิดจริง แล้วจำเลยมาขอโทษด้วยความสำนึกผิดจริง พร้อมกับขอให้อดีต นายกฯให้อภัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็พร้อมให้อภัย
สรุป เงื่อนไขเจรจาถอนฎีกาคดีหมิ่นโฟร์ซีซั่นส์บรรลุข้อตกลง จำเลยโพสต์ขอโทษต่อสาธารณะถึง 19 ต.ค. และน.ส.ยิ่งลักษณ์รับการขอโทษ
จดหมายเปิดผนึกเขียนตอนหนึ่งว่า
“ข้าพเจ้านายศิริโชค โสภา กับพวกอีกสองคน รวมทั้งข้าพเจ้าด้วยเป็นสามคน เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ว่า “ข้อความและการกระทำของพวกข้าพเจ้าดังกล่าว เป็นการหมิ่นประมาทนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และในฐานะส่วนตัวจริง ข้อความและป้ายดังกล่าวที่นำมาประกอบนั้นไม่ถูกต้องและไม่เป็นความจริง
“บัดนี้ ข้าพเจ้ากับพวกรวมสามคน คือนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต จำเลยที่ 1 นายศิริโชค โสภา จำเลยที่ 2 และนาย เทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 3 ได้สำนึกผิดแล้ว และขออภัยต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้ให้อภัย ต่อข้าพเจ้า และได้ยื่นคำร้องขอถอนฎีกาให้กับข้าพเจ้ากับพวก ทำให้ข้าพเจ้ากับพวกหลุดพ้นจากคดีนี้ ข้าพเจ้ากับพวกทั้งสามคนขอขอบคุณ”
ศิริโชค โสภา อายุ 51 ปี
ดีกรีปริญญาตรีเกียรตินิยมด้านเคมีและการจัดการจากราชวิทยาลัยแห่งลอนดอน
ปริญญาโทบริหารธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
อดีตส.ส.สงขลา รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
ฉายา วอลเปเปอร์ เจ้าตัวภูมิใจ
1 ใน 3 พิธีกรรายการสายล่อฟ้า ที่มาแห่งการแพ้คดี กระทั่งถึงชั้นศาลฎีกา
ต้องขอรับความเมตตาและขอโทษในที่สุด
เทพไท เสนพงศ์ อายุ 53 ปี
นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์
อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์
เฮฮาจัดรายการสายล่อฟ้าจนจ่อจะหมดอนาคตการเมือง แต่โชคยังดีมีคนเมตตาให้โอกาส
ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อายุ 44 ปี
ปริญญาตรีบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาโท 3 ใบ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เศรษฐศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเยล
สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทน สอบตกตลอด กระทั่งปี 2556 เป็นส.ส.ครั้งแรก เพราะส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับก่อนหน้าลาออก จึงได้รับเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน
เป็นโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเฮฮาในรายการสายล่อฟ้า
เดิมพันสูงถึงอาจหมดอนาคตการเมือง จนต้องร้องขอให้โจทก์ถอนฎีกา
3 จำเลยพรรคประชาธิปัตย์จึง “สำนึกผิด ขออภัย และขอบคุณ”