ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

เมื่อไม่กี่วันก่อน พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ ที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ส่งไปคุมคดีครูจอมทรัพย์ ได้ออกมาขอโทษพี่น้องประชาชน

ขอโทษที่ประชาชนกำลังดูเรื่องราวต่างๆ ทางทีวี กำลังอิน น้ำตาไหล แล้วตำรวจก็ไปเตะปลั๊ก จนทีวีดับ

เป็นลีลาการเปรียบเปรยที่สนุกดี

เป็นการขอโทษที่ไปทำให้อารมณ์ของคนในสังคมต้องสะดุด

จากที่กำลังมีอารมณ์กันอย่างมาก ว่าตำรวจผิดพลาดร้ายแรง

แต่ตอนนี้ พยานหลักฐานที่ตำรวจไปค้นออกมา เริ่มเกิดข้อสงสัยในกระแสเรื่องแพะมากมาย!

 

เหตุรถชนจนมีคนตาย เกิดเมื่อ 11 มีนาคม 2548

ต่อมาครูจอมทรัพย์ถูกตั้งข้อกล่าวหา โดยไม่ให้การในชั้นตำรวจ ขอไปให้การในชั้นศาล

จนปี 2556 คดีถึงที่สุด เมื่อศาลฎีกาตัดสินตามศาลชั้นต้นว่าผิดจริง

หลังจากพ้นโทษ ครูจอมทรัพย์ร้องเรียนว่าตำรวจจับผิดคน อ้างอิงการเข้ารับสารภาพของนายสับ วาปี

นายสับไปปรากฏตัวที่สภ.นาโดน เรณูนคร นครพนม เพื่อรับว่าเป็นคนขับรถชนตัวจริง เมื่อ 19 พฤษภาคม 2557 หลังจากศาลฎีกาตัดสินไปแล้ว

ไม่เท่านั้น ยังมีชายอีกคนไปพบตำรวจสภ. เรณูนคร นครพนม รับว่าขับรถชนเองอีก เมื่อปลายปี 2556!?

กรณีนายสับนั้น ตำรวจได้พยานคือ นายอุบล ไชยบัน ซึ่งซื้อรถจากนายสับเมื่อปี 2547

ซื้อก่อนจะเกิดเหตุรถชนคนตาย ซื้อแบบโอนลอย แต่ไม่ได้ไปโอนชื่อ

นายอุบลใช้รถคันนี้ในไร่อ้อยไร่มันโดยตลอด จนรถพัง และขายซากเมื่อปี 2551

ที่ตำรวจไปเตะปลั๊กทีวีดับ เพราะออกมาชี้ว่า การปรากฏตัวของผู้ที่อ้างว่าขับรถชนคนตายตัวจริงนั้น เกิดหลังคดีครูถึงที่สุดแล้ว

 

ออกมารับผิดอย่างจริงจัง เป็นเรื่องเป็นราว แต่มีถึง 2 คน

รวมทั้งรถของนายสับไปอยู่กับนายอุบลตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุรถชนคนตาย และใช้ในไร่ตลอดจนรถพัง

เรื่องราวมันสลับซับซ้อน แค่คนที่ขับชนจริงๆ พยานก็ยันว่าเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง!?!

แต่คนที่มารับแทนว่าเป็นคนชน ล้วนเป็นผู้ชาย ซึ่งมีข้อน่าสงสัยทั้ง 2 ราย

คดีนี้น่าติดตามจริงๆ บนพื้นฐานข้อมูล ไม่ใช่ด้วยอารมณ์!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน