ย้อนคดีจับโจรฉกทอง ลงทุนแปลงโฉมลงมือ พลาดท่าหนุ่มวินจยย. : สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีจับโจรฉกทอง – แม้จะไม่ล้ำยุคถึงขนาดในภาพยนตร์เรื่องเฟซออฟ แต่แผนการก่อเหตุอาชญากรรมของนายวงศกร เพชรสนั่น หนุ่มวัย 30 ปี ก็ไม่ธรรมดา หากไม่มาพลาดท่าให้หนุ่มวินจยย.พลเมืองดีแล้วล่ะก็ อาจเป็นการยากที่จะติดตามตัวได้โดยเร็ว

ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ร.ต.ท.อภิชัย ไชยสุภาพ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาบางบัวทอง ถนนตลิ่งชัน สุพรรณบุรี

ย้อนคดีจับโจรฉกทอง ลงทุนแปลงโฉมลงมือ พลาดท่าหนุ่มวินจยย. : สดจากสนามข่าว

โฉมหน้าก่อน-หลังแปลงโฉม

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต. ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ศราวุธ สวัสดิชัย รรท.ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.สมุทร์ เกตุยา รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท. วรทัศน์ วัฒนะชัยนันท์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ณัฐยุทธ์ แก้วปาน สว.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน

ที่เกิดเหตุอยู่ที่บริเวณชั้น 2 จากการตรวจสอบที่ร้านทองดังกล่าวพบพนักงานหญิง 3 คน อยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการสอบสวน น.ส.ก้อย (นามสมมติ) ให้การว่า เมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) เวลาประมาณ 20.00 น. คนร้ายได้ทำทีเดินเข้ามาที่ร้าน และขอดูสร้อยทองรูปพรรณน้ำหนัก 5 บาท จำนวน 4 เส้น ก่อนจะสั่งจองไว้และบอกว่าจะนำเงินมาซื้อวันนี้ (3 ธ.ค.)

จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา คนร้ายก็ได้เดินเข้ามาที่ร้านทอง และบอกว่าขอดูสร้อยทอง รูปพรรณที่สั่งจองไว้ ตนจึงหยิบสร้อยทองรูปพรรณน้ำหนัก 5 บาท จำนวน 4 เส้น และสร้อยหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น มาให้คนร้ายดู ก่อนที่คนร้ายจะกวาดทองทั้งหมดใส่กระเป๋าสะพายที่เตรียมมา แล้ววิ่งหลบหนีออกจากร้านไปดื้อๆ

ย้อนคดีจับโจรฉกทอง ลงทุนแปลงโฉมลงมือ พลาดท่าหนุ่มวินจยย. : สดจากสนามข่าว

วินจยย.พลเมืองดี

หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตรวจสอบตาม เส้นทางหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายวิ่งหนีออกมาขึ้นรถจยย.วิน เบอร์ 9 ที่จอดอยู่ใกล้ๆ กับห้างหลบหนีไป จึงได้วิทยุสกัดจับคนร้าย ก่อนได้รับแจ้งว่าวินจยย.ที่รับคนร้ายไป ได้ควบคุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ที่บริเวณตลาดกลางบางใหญ่

ย้อนคดีจับโจรฉกทอง ลงทุนแปลงโฉมลงมือ พลาดท่าหนุ่มวินจยย. : สดจากสนามข่าว

นำไปชี้จุดในห้าง

เจ้าหน้าที่จึงไปควบคุมตัวมาที่ร้านทอง สอบสวนทราบชื่อคือ นายวงศกร เพชรสนั่น อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 412/9 ซอยริมทางรถไฟบางซื่อ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. จากการตรวจค้นภายในกระเป๋าสะพายพบทองรูปพรรณน้ำหนัก 5 บาท จำนวน 4 เส้น สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น รวมเป็นเงินกว่า 4 แสนบาท อยู่ครบถ้วน

ขณะที่นายสุระ อาจกิจ อายุ 41 ปี อาชีพขี่วินจยย.รับจ้าง เบอร์ 9 วินตลาดกลางบางใหญ่ ที่ช่วยจับคนร้าย เล่าว่า ขณะที่จอดรอรับผู้โดยสารอยู่ที่คอนโดฯ อาคารเอ ใกล้ๆ กับห้าง คนร้ายเดินมาบอกให้ตนไปส่งที่หน้าปากทางเข้าตลาดกลางบางใหญ่

ตอนนั้นก็ไม่ทราบว่าเป็นคนร้าย แต่สังเกตพฤติกรรมมีท่าทางลุกลี้ลุกลน บอกให้ตนรีบขับไปส่งให้เร็ว ระหว่างที่ตนกำลังขี่รถจยย. ได้มีโทรศัพท์จากเพื่อนรุ่นน้องที่ขับวินด้วยกันโทร.มาหา แต่ตนไม่ได้รับเพราะคนร้ายบอกว่าให้รีบไปส่งก่อน

เมื่อส่งคนร้ายเสร็จ ตนโทร.กลับไปจึงรู้ว่าคนที่ตนเพิ่งไปส่งเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ร้านทอง ตนและเพื่อนที่ขับวินพร้อมด้วยรปภ.ของทางตลาดกลางบางใหญ่ จึงช่วยกันวิ่งไล่ตามจนสามารถควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มารับตัวไปดำเนินคดี

ขณะเดียวกันตำรวจสังเกตเห็นความผิดปกติที่ ใบหน้าของคนร้าย ซึ่งเมื่อตรวจสอบใกล้ๆ ก็พบว่าคนร้ายมีการแต่งหน้า ติดหนวดเครา เสริมจมูกปลอม และใส่คอนแท็กต์เลนส์เพื่ออำพรางใบหน้าที่แท้จริงเอาไว้ ซึ่งเมื่อล้างหน้าออกมาพบว่ามีความแตกต่างกับใบหน้าจริงเป็นอย่างมาก เรียกว่าหากเอาภาพวงจรปิดไปไล่หา ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะระบุว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่

ด้านนายวงศกรสารภาพว่า ได้วางแผนที่จะชิงทรัพย์ร้านทอง โดยมาดูลาดเลาไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงจ้างช่างแต่งหน้า ฝีมือระดับอาจารย์ให้แปลงโฉมให้ โดยหลอกว่าจะไปง้อภรรยา ก่อนเกิดเหตุได้เดินเข้าไปในร้าน ก่อนจะขอดูทองที่สั่งจองไว้ พนักงานจึงหยิบทองมาให้ดู ตนจึงได้ฉวยจังหวะรวบทองทั้งหมดใส่กระเป๋า และหลบหนีไป แต่สุดท้ายถูกวิน จยย. จับตัวไว้ได้

ตำรวจได้นำตัวนายวงศกรไปทำแผนประกอบคำรับ สารภาพ ตามจุดต่างๆ ที่ได้มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ก่อนเเจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สันติ ประหร่ำภากรณ์

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน