วิเคราะห์การเมือง

 

ความอื้อฉาวอันเนื่องแต่ “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” สะท้อนให้เห็นกระบวนการและวิถีดำเนินอันดำรงอยู่ภายในสังคมแบบไทย-ไทยได้อย่างเด่นชัด

เป็นสังคม “อุปถัมภ์” อย่างที่นักสังคมวิทยาสรุปแน่นอน

เพราะว่าพื้นฐานเดิมของ “แม่ผ่องพรรณ” คือ พื้นฐานความสัมพันธ์อยู่กับพื้นที่ในทางภาคเหนือมาอย่างยาวนาน

เรื่องนี้จึงเริ่มต้นขึ้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

การแสดงน้ำใจเข้าไปช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของชาวบ้าน เป็นไมตรีอันลึกซึ้งอย่างยิ่ง ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา”

น่าจะเป็นเรื่องดี น่าจะเป็นเงาแห่งความนิยมอันมาจาก “ชาวบ้าน”

แต่ก็กลายเป็นเรื่องยืดยาว ไม่เพียงแต่จะโยงไปยัง “สามี” หากแต่ยังโยงยาวไปยังธุรกิจของ “ลูก” และเรื่องกำลังอยู่ในแฟ้มของ ป.ป.ช.

บทสรุป 1 ก็คือ เพราะ “นามสกุล” แท้ๆ

หากถือเอา “รายงานข่าว” ที่ใกล้ชิดอยู่กับกระบวนการแห่ง “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” ก็จะเข้าใจว่าต้นตอของข่าวและความอื้อฉาวนี้มาจาก 2 องค์ประกอบ

องค์ประกอบ 1 คือ จากคนที่แวดล้อม “แม่ผ่องพรรณ”

องค์ประกอบ 1 คือ จากคนที่ไม่พอใจในเรื่องการแต่งตั้งและโยกย้ายซึ่งจะมีผลนับแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป

จึงได้นำเอา “เรื่องนี้” มาซุบซิบ นินทาและกลายเป็น “ประเด็น”

“รายงานข่าว” ในลักษณะนี้จึงเท่ากับชี้เบาะแสและร่องรอยอันเป็นที่มาที่ไปได้อย่างเด่นชัดว่า จะต้องมาจาก “คนใน” ที่ไม่ห่างไกลจาก “แม่ผ่องพรรณ” และเมื่อหงุดหงิดไม่พอใจต่อ “แม่ผ่องพรรณ” จึงได้ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่

เข้าทำนอง “หยิกเล็บ เจ็บเนื้อ” ในสำนวนไทย

ปมเงื่อนอยู่ตรงที่เล็บมิได้เป็นเล็บของ “แม่ผ่องพรรณ” อย่างเดียว หากแต่ยังสัมพันธ์โยงยึดอยู่กับสามีของ “แม่ผ่องพรรณ”

อย่างที่มีบางท่านสรุปว่าเป็นเรื่องของ “นามสกุล”

กรณีของ “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” จึงพัฒนาไปไกลอย่างยิ่ง เพราะกระบวนการแห่ง “หยิกเล็บเจ็บเนื้อ” ดำเนินไปเหมือนกับภาษาบิลเลียดที่ว่า

ตี “ลูกแคนนอน”

แคนนอนจาก “แม่ผ่องพรรณ” ไปยังสามี “แม่ผ่องพรรณ” ไปยังบุตร “แม่ผ่องพรรณ” และเลเพลาดพาดไปยังพี่ชายสามี “แม่ผ่องพรรณ”

แค่ “ฝาย” แท้ๆ เหตุไฉนทำท่าจะกลายเป็น “เขื่อน”

จากนี้จึงเห็นได้ว่า เรื่องซึ่งเคยเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง ก็สามารถกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องไม่ธรรมดาได้

หากว่าเป็นเรื่องซึ่งเกี่ยวพันกับยศถาบรรดาศักดิ์ เกี่ยวพันกับตำแหน่งหน้าที่ และที่สุดก็คือ เกี่ยวพันกับการขึ้นและลงของอำนาจ วาสนาในทางการเมือง

“นามสกุล” กลายเป็น “ประเด็น” ก็เพราะเหตุนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน