เมืองไทย 25 น.
ทวี มีเงิน
ในห้วงเวลาไม่กี่ปีโลกเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อก่อนธุรกิจที่มั่นคงน่าเชื่อถือต้องมีสำนักงานใหญ่ๆ พนักงานมากๆ แต่สมัยนี้ยิ่งน้อยยิ่งดี แต่ต้องน้อยอย่างมีคุณภาพ คนน้อยกำไรเยอะ ค่าตอบแทนสูง ทุกวันนี้มันกลับตาลปัตรไปหมด ดูอย่าง “แอปเปิ้ล” ไม่มีโรงงานแม้แต่โรงเดียว แต่ครอบครองตลาดอันดับ 1 ของโลก เพราะใช้ระบบจ้าง คนอื่นผลิตล้วนๆ กำไรเพิ่มทุกปี “เฟซบุ๊ก” “กูเกิ้ล” มีรายได้มหาศาลจากโฆษณาโดยไม่มีพนักงานขายโฆษณาสักคน เพราะใช้พาร์ตเนอร์และให้ลูกค้าทำเองได้ กำไรเพิ่มขึ้นทุกปี มาร์จิ้นก็สูงมาก
โมเดลธุรกิจเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมื่อก่อนคนจะเป็นเถ้าแก่เจ้าของอู่แท็กซี่ให้เช่า เริ่มจากมีรถคันแรกขับเอง ต่อมาก็ซื้อเพิ่มอีกคันให้ลูกช่วยขับ กว่าจะเป็นเจ้าของอู่มีรถแท็กซี่ให้เช่าได้ต้องใช้เวลาเป็นสิบๆ ปี แต่วันนี้ “อูเบอร์” เป็นบริษัทแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแต่ไม่มีรถเองสักคัน
เจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เริ่มจากรุ่นปู่รุ่นย่ามีร้านขายของชำเล็กๆ ริมถนน ต่อมาพัฒนาเป็นห้างสรรพสินค้าแล้วค่อยๆ ขยายกิจการมีสาขาต่างๆ แต่ทุกวันนี้ “อาลีบาบา” เป็นแหล่งค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพียงชั่วพริบตาเดียว แถมไม่เคยมีสินค้าและสต๊อกสินค้าสักชิ้น
สมัยก่อนคนจะเป็นเจ้าของโรงแรมอาจจะเริ่มจากทำเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ให้เช่าก่อนจึงค่อยขยับขยายมาเป็นธุรกิจโรงแรม กระทั่งมีเชนทั่วโลก ต้องใช้เวลาหลายสิบปี ล่าสุด “แอร์บีเอ็นบี” ผู้จัดหาห้องพักหรือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่มีห้องพักของตัวเองแม้แต่ห้องเดียว และไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินสักแปลงเดียว
ธุรกิจธนาคารนับวันยิ่งยากขึ้นไปทุกที เดิมธุรกิจนี้ทรงอิทธิพลมากๆ ปล่อยกู้ลูกค้ารายใหญ่ๆ ต่อมาธุรกิจขนาดใหญ่หันมากู้เองด้วยการออกพันธบัตร ธนาคารจึงหันมาจับรายย่อยก็ถูกคู่แข่งหน้าใหม่ชื่อ “อิออน” แย่งลูกค้าไปอีก
แต่ที่น่ากลัว วันดีคืนดีคู่แข่งหน้าใหม่ที่ชื่อ “ฟินเทค” ให้บริการใหม่ๆ มาแย่งลูกค้าไปอีก ไม่ต้องมีสาขา ไม่ต้องมีเงินสำรองแต่ก็แข่งกับธนาคารได้สบายๆ ค่าธรรมเนียม ที่เคยฟันเหนาะๆ ก็โดน “พร้อมเพย์” มาบีบจ่ายน้อยลง
โลกกำลังเปลี่ยนไปธุรกิจก็เปลี่ยนตาม ชนิด 360 องศา ใครไม่ทันระวังหลงทาง
