สดจากสนามข่าว
พงษ์สันต์ เตชะเสน เรื่อง/ภาพ
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ตำรวจโรงพักพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี รับแจ้งพบศพชายจมน้ำเสียชีวิต ขณะลงไปวางข่ายดักปลาในฝายน้ำล้นบ้านหนองไฮ ต.โนนกลาง อ.พิบูลมังสาหาร ก่อนที่คดีคนจมน้ำตายจะกลายเป็นคดีฆาตกรรม แต่ที่น่าตกใจคือมูลเหตุที่ทำให้ผู้ตายถูกฆ่าโหด
เช้าวันที่ 8 ก.พ. พ.ต.อ.โสภณ เครือเช้า ผกก.สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พรศักดิ์ เหลือนาค รอง ผกก.สส.สภ. พ.ต.ท.ชยกร สอนอาจ สว.สส.พร้อมชุดสืบสวนควบคุมตัว นายประมวน คูณดี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 บ้านหนองไฮ หมู่ 3 ต.โนนกลาง อ.พิบูลมังสาหาร และ นายบุญถึง ป้อมสันเทียะ อายุ 43 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 33 บ้านหนองขุ่น หมู่ 2 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพที่ฝายน้ำล้นบ้านหนองไฮ
หลังทั้งคู่ถูกจับกุมในคดีร่วมกันฆ่า นายยิ่งยศ ผลรักษ์ อายุ 52 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านหนองไฮ เสียชีวิตเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา และศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้ออกหมายจับที่ จ.37/2560 และ 38/2560 ลงวันที่ 7 ก.พ. “ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน” ก่อนจะถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในวันเดียวกัน
นาทีจับ 2 ผัว
ปฐมบทของเหตุการณ์ ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ร.ต.อ.พิทยา บัวลา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พิบูลมังสาหาร รับแจ้งมีชาวบ้านพบศพคนจมน้ำตาย เหตุเกิดภายในฝายน้ำล้นบ้านหนองไฮ ต.โนนกลาง อ.พิบูลมังสาหาร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อภายหลังว่านายยิ่งยศ ผลรักษ์ อายุ 52 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านหนองไฮ สภาพศพลอยอยู่ในน้ำใกล้ตลิ่ง คดีนี้เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายลงไปวางข่ายจับปลาแล้วเกิดเป็นตะคริวจนจมน้ำเสียชีวิต
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำศพขึ้นมาชันสูตรบนฝั่งคดีก็พลิก โดยตำรวจพบน่าจะเป็นการเสียชีวิตอย่างผิดปกติ เพราะบริเวณศีรษะของนายยิ่งยศผู้ตายมีบาดแผลคล้ายถูกตีด้วยของแข็งซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ถึงตาย หรือทำให้จมน้ำจนตาย
ผู้กองหนุ่มรีบรายงานให้ พ.ต.อ.โสภณ เครือเช้า ผกก.สภ.พิบูลมังสาหาร รับทราบ จากนั้นชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.พรศักดิ์ เหลือนาค รอง ผกก.สส.สภ. พ.ต.ท.ชยกร สอนอาจ สว.สส. เข้าหาหลักฐานในหมู่บ้านเกิดเหตุ กระทั่งทราบว่านายยิ่งยศคนตาย ไปติดพัน นางจอย (นามสมมติ) อายุ 43 ปี ซึ่งมีสามีเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว เมื่อตรวจสอบประวัตินางจอยก็พบว่าไม่ธรรมดา โดยเจ้าตัวเคยอยู่กินกับ นายประมวน คูณดี อายุ 47 ปี ชาวบ้านหนองไฮ แต่เมื่อ 5 ปีก่อนทั้งคู่เลิกกัน ก่อนที่นางจอยจะมาอยู่กินกับ นาย บุญถึง ป้อมสันเทียะ อายุ 43 ปี ชายต่างหมู่บ้าน แต่ปรากฏว่ายังมีการไปมาหาสู่กันของทั้ง 3 คน
กระทั่งเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา นายยิ่งยศมาติดพันนางจอย และมักชวนนางจอยไปนั่งดื่มเหล้าตามที่ลับตาคนเป็นประจำ แนวทางสืบสวนของตำรวจจึงมุ่งไปที่ผัวเก่า-ผัวใหม่ทั้งสองคนของนางจอยนั่นเอง
ประกอบกับมีคนเห็นว่า คืนก่อนนายยิ่งยศจะกลายเป็นศพ ทั้งนายยิ่งยศ นายประมวน และนายบุญถึง ออกไปหาปลาด้วยกันที่ฝายน้ำล้นบ้านหนองไฮดังกล่าว ชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขอให้ศาลจังหวัดอุบลราชธานีออกหมายจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เป็นผัวเก่าและผัวใหม่ที่ร่วมกันฆ่ากิ๊กของเมียได้ขณะยังอยู่ในหมู่บ้านหนองไฮในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทั้งนายประมวนและนายบุญถึง รับสารภาพว่าลงมือฆ่านายยิ่งยศจริง โดยเกิดจากเกิดความแค้นและหึงหวงที่เจ้าตัวลอบเป็นกิ๊กกับนางจอย จึงร่วมกับวางแผนลวงนายยิ่งยศออกมาวางตาข่ายดักปลาและตั้งวงกินเหล้ากันริมฝายเมื่อช่วงกลางดึกคืน วันที่ 5 ก.พ.
ทั้งคู่สารภาพอีกว่าเมื่อมาถึงริมฝายน้ำล้น ก็ลวงให้นายยิ่งยศที่เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ลงไปวางตาข่ายดักปลาริมฝาย ระหว่างที่คนตายก้มตัววางตาข่ายดักปลา นายบุญถึงเอาหินที่อยู่ในบริเวณนั้นทุบเข้าที่หัวก่อนกระโดดลงไปจับหัวกดน้ำ
คุมตัวไปทำแผนฯ
แต่เนื่องจากนายบุญถึงตัวเล็กกว่า สู้แรงนายยิ่งยศที่ดิ้นรนต่อสู้เอาชีวิตรอดไม่ไหว นายประมวนจึงกระโดดตามลงไปช่วยจับหัวนาย ยิ่งยศกดน้ำจนขาดอากาศหายใจตาย ก่อนจะทิ้งศพไว้ที่ฝายน้ำล้น และเอาเสื้อผ้าที่ใส่วันเกิดเหตุไปเผาทิ้งไว้ในป่าท้ายหมู่บ้าน ก่อนกลับมานอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านทำตัวเป็นปกติ
หลังทำแผนประกอบรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ก็ส่งตัวทั้งผัวเก่า-ผัวใหม่ไปฝากขังที่เรือนจำ เพื่อรอรวบรวมสำนวนส่งให้อัยการดำเนินคดีต่อไป
