ทะลุคนทะลวงข่าว : ศาลรธน.-กกต.-กสทช. ถูกจับจ้องเรื่อง‘ร้อน’ในมือ 3ประมุข‘องค์กรอิสระ’
ทะลุคนทะลวงข่าว : การเมืองไทย‘ร้อน’ต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ ต่อกรณีพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
7 คณะกรรมการ กกต. ภายใต้การนำของ อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตามมาตรา 92 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560
เข้าข่ายความผิด กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 รับคำร้องของกกต.ไว้พิจารณาวินิจฉัย ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2561 มาตรา 7 (13) ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92
ก่อนส่งหนังสือถึงกกต. ในฐานะ ผู้ร้อง และพรรคไทยรักษาชาติ ในฐานะผู้ถูกร้อง ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 7 วันนั่นคือเวลาให้ถึง 20 ก.พ. โดยศาลนัดพิจารณาครั้งต่อไปวันที่ 27 ก.พ. เวลา 13.30 น.
โฟกัสจึงจับจ้องที่การพิจารณาวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มี นุรักษ์ มาประณีต เป็นประธาน
หากผิดจริง ตามที่กกต.เสนอ มิใช่แค่ยุบ ‘ไทยรักษาชาติ’ ที่เพิ่งตั้งไข่ได้ไม่นาน
แต่คณะกรรมการบริหารพรรค ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีพ
ถือเป็นโทษประหารทางการเมือง
อีกหนึ่งองค์กรที่มีเรื่อง‘ร้อน’อยู่ในมือเช่นกัน
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มี พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร เป็นประธานบอร์ด
มีมติสั่งระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี นาน 15 วัน เริ่มตั้งแต่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา
ฐานกระทำผิดซ้ำซาก ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาทำให้เกิดความสับสน และยั่วยุให้เกิดความแตกแยก จาก 2 รายการ คือ 1.รายการ Tonight Thailand ออกอากาศวันที่ 16 ธ.ค.2561
2.รายการ WAKE UP THAILAND ออกอากาศวันที่ 21, 28, 29 ม.ค. และ 4 ก.พ.2562
พร้อมย้อนอดีตถูกร้องเรียนมาตลอด จากสถิติปี 2558 มีการกระทำความผิด 4 กรณี ปี 2559 มี 11 กรณี ปี 2560 มี 10 กรณี และปี 2561 มี 9 กรณี
จึงสั่งจอดำ เพื่อให้ปรับปรุง แต่หากยังไม่ปรับปรุง จะเพิ่มโทษหรือเพิกถอนใบอนุญาต
อย่างไรก็ตาม แม้วอยซ์ทีวี จะจอดำมาหลายรอบ แต่คำสั่งจอดำหนนี้ อยู่ในช่วงใกล้เลือกตั้งจึงถูกสังคมรุกหนัก เพราะกสทช.อาศัยอำนาจของคสช.ดำเนินการ
3 สมาคมสื่อฯ ออกแถลงการณ์คัดค้าน กสทช. ระบุขัดหลักสิทธิเสรีภาพการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร จึงควรทบทวนมาตรการจอดำ
ขณะที่ผู้บริหารวอยซ์ทีวี ยื่นศาลปกครองกลาง ขออุทธรณ์คำสั่ง กสทช. และขอคุ้มครองชั่วคราว เนื่องจากทำให้ธุรกิจเสียหายถึง 76 ล้าน
ล่าสุด ศาลนัดฟังคำสั่งคุ้มครองหรือไม่ 20 ก.พ.นี้
นุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เกิด 24 เม.ย.2492
นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)
นุรักษ์ มาประณีต
เส้นทางตุลาการเริ่มจากเป็นอัยการ ผู้ช่วย ก่อนเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดไชยา ศาลจังหวัดภูเก็ต
ต่อมาเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 และผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 8
ผ่านตำแหน่งสำคัญๆ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ประธานแผนกคดีเยาวชน และครอบครัวในศาลอุทธรณ์ ภาค 7 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ และรองอธิบดีผู้พิพากษา
หลังรัฐประหาร 2549 เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550
ได้รับแต่งตั้งให้เป็นตุลาการรัฐธรรมนูญ คณะที่ตัดสินคดียุบพรรค อันสืบเนื่องมาจากการเลือกตั้ง 2 เม.ย.2549 โดยคำพิพากษาส่วนบุคคลได้ตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทยและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี และให้ยกคำร้องพรรคประชาธิปัตย์
ปี 2551 ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
21 พ.ค. 2557 -ปัจจุบัน เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ
อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.
เกิดเมื่อ 26 ส.ค.2499
อิทธิพร บุญประคอง
นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัย Tulane สหรัฐอเมริกา
ลูกหม้อกระทรวงการต่างประเทศ
2553 อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เอกอัครราชทูตหลายประเทศ ทั้งกรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ปี 2555 กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ปี 2558
นักเจรจามือดี เคยเป็นรองตัวแทนของประเทศไทย คดีความคำพิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศว่าด้วยปราสาทเขาพระวิหาร
2558 ร่วมทีมผู้แทนพิเศษรัฐบาลไทย รณรงค์หาเสียงสนับสนุนการสมัครเข้ารับเลือกในตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ก่อนแพ้คาซัคสถานขาดลอย
สมัครเข้ารับการสรรหา และได้เป็น กกต. 31 ก.ค.2561 พลิกโผนั่งประธาน กกต. คุมจัดเลือกตั้ง 24 มี.ค.นี้
พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร เกิดเมื่อ 25 พ.ค.2494
ตท.9 และจปร.20 ร่วมรุ่น พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ และ พล.อ.สุรพันธ์ พุ่มแก้ว
พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร
รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการทรัพยากรเพื่อความมั่นคง มหาวิทยาลัยบูรพา
รับราชการทหารผ่านตำแหน่งสำคัญๆ ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 รองแม่ทัพภาคที่ 1 และที่ปรึกษาพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย
เคยเป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านปฏิบัติการจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ กองทัพบกราชองครักษ์พิเศษ และอดีตตุลาการศาลทหารสูงสุด ได้รับเลือกเป็น บอร์ด กสทช.
มติ 6 ต.ค.2560 ขยับขึ้นเป็นประธานบอร์ด กสทช.
3 ประมุข 3 องค์กรอิสระ ที่มี ‘เรื่องร้อน’ อยู่ในมือ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
