ซ้ายจัด ดัดจริต เปลี่ยน ระบอบ ปกครอง เป็นจริง เพียงใด

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

วิเคราะห์การเมือง – ไม่ว่าข้อกล่าวหาต่อพรรคการเมืองที่ว่ามีเป้าหมายต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศจะออกมาจากปากของผู้ใด เป็นประชาชนธรรมดา หรือเป็นผู้มีตำแหน่งใหญ่โต

ล้วนเป็นเรื่องร้ายแรง และมากด้วยความล่อแหลม

โดยเฉพาะที่เน้นอย่างหนักแน่นว่า ต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไปเป็นระบอบอื่น

ยิ่งเป็นเรื่องน่าหวาดเสียว

โดยเฉพาะเป็นการกล่าวหาต่อพรรคการเมืองที่ผ่านการจดแจ้งและได้รับอนุญาตมาแล้วจากนายทะเบียนพรรคการเมือง

เพราะว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้เริ่มต้นจากความเชื่อว่าคนในพรรคการเมืองนั้นเป็นพวกซ้ายจัดและยังเป็นพวกที่ดัดจริตก็ต้องทำความเข้าใจต่อพรรคในแบบซ้ายเสียก่อน

กล่าวสำหรับในประเทศไทยพรรคซ้ายจัดในประเทศ ไทยคือพรรคคอมมิวนิสต์

พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยประกาศตนเป็นพรรคเมื่อเดือนธันวาคม 2485 และเป็นพรรคนอกกฎหมายมาโดยตลอด

นั่นก็คือ เป็นพรรคใต้ดิน

แต่กล่าวสำหรับพรรคที่เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม ล้วนผ่านการตรวจสอบจาก กกต.ล้วนอยู่ใต้กฎหมายพรรคการเมือง และถือว่าเป็นพรรคบนดิน

พรรคการเมืองทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย มีเป้าหมายอย่างเดียวกัน

นั่นก็คือ ต้องการชนะเลือกตั้ง ต้องการเป็นรัฐบาล

เช่นนี้พรรคจึงต้องเสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี เช่นนี้พรรคจึงต้องเสนอนโยบายว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะบริหารประเทศอย่างไร

เป็นการเสนอให้ประชาชนเลือก หากได้ชัยชนะก็ได้จัดตั้งรัฐบาล

นี่คือการต่อสู้บนพื้นฐานแห่งกฎหมาย นี่คือกระบวนการอันเป็นไปตามปกติในทางการเมืองเปิดเผยและตรงไปตรงมา

การที่มีผู้มาประกาศและกล่าวหาว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคต้องการเปลี่ยนระบอบการปกครองจึงเป็นการกล่าวหาที่รุนแรงอย่างยิ่งในทางการเมือง

ยิ่งคนที่ประกาศมีฐานะ มีตำแหน่งยิ่งสำคัญ

ขณะเดียวกัน ก็มีความจำเป็นที่จะต้องอธิบายให้เห็นว่านักการเมืองซ้ายจัด พรรคการเมืองดัดจริต ที่ต้องการเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นใครเป็นพรรคใด

การกล่าวหาลอยๆ จึงเท่ากับแสดงถึงการไม่รับผิดชอบ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน