วิเคราะห์การเมือง : ก้าวใหญ่สำคัญของธนาธร อนาคตใหม่หลัง 5 มิถุนายน
ก้าวใหญ่สำคัญของธนาธร อนาคตใหม่หลัง 5 มิถุนายน : เป้าหมายที่จะกำจัดพรรคอนาคตใหม่ กำจัด นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกไปจากวงจรทางการเมือง กำลังได้รับการพิสูจน์ว่าแทบไม่มีความหมาย
เห็นได้จากบทบาทของพรรคอนาคตใหม่ในสภา
เห็นได้จากบทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แม้ว่าจะมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุติบทบาทในฐานะส.ส.
ความโดดเด่นของพรรคอนาคตใหม่เห็นได้จาก น.ส.พรรณิการ์ วานิช
ขณะเดียวกัน แม้ไม่ได้เข้าร่วมประชุมรัฐสภา แต่เสียงของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในระหว่างการประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีได้หายไปหรือไม่
มีความคิดในกลุ่มที่เกลียดชังรังเกียจพรรคอนาคตใหม่ถึงระดับที่อยากให้ยุบพรรค อยากให้ตัดสิทธิ์ทางการเมืองของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ทำให้พรรคอนาคตใหม่เหมือนพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน
ทำให้ชะตากรรมของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เหมือนกับชะตากรรม นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ถามว่าแล้วทำลายพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนได้หรือไม่
คำตอบก็เห็นแล้วว่าเมื่อยุบพรรคไทยรักไทยก็เกิดพรรคพลังประชาชน เมื่อยุบพรรคพลังประชาชนก็เกิดพรรคเพื่อไทย
หากจะเดินแนวทางเดียวกันกับการยุบพรรคไทยรักไทย การยุบพรรคพลังประชาชน ก็ขอให้ดูกรณีของพรรคเพื่อไทยเป็นอุทาหรณ์
ยืนยันว่า ‘กำจัด’ ได้แต่ไม่สามารถ ‘ขจัด’
การกำจัดสามารถทำได้ในเชิงกายภาพ หรือในทางรูปธรรม แต่เด่นชัดอย่างยิ่งว่ารูปในทางความคิดหรือที่เป็นนามธรรมยังดำรงคงอยู่
มิฉะนั้น พรรคพลังประชาชนคงไม่ชนะ มิฉะนั้น พรรคเพื่อไทยคงไม่ชนะ
เมื่อพรรคอนาคตใหม่ก่อรูปขึ้นในเดือนมิถุนายน 2561 เวลาเพียง 1 ปี มาถึงเดือนมิถุนายน 2562 การเติบใหญ่ของพรรคอนาคตใหม่ก็สร้างความตระหนกอย่างใหญ่หลวง
กล่าวสำหรับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ การที่ 7 พรรคพันธมิตรเห็นชอบผลักดันให้เขาเป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ถือเป็นก้าวอันทรงความหมาย ก้าวอันสำคัญ
ยืนยันว่าเวลาเพียง 1 ปี พรรคอนาคตใหม่และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ทะยานมาไกลอย่างยิ่งในทางการเมือง
เท่ากับชี้ถึงอนาคตที่พรรคอนาคตใหม่จะก้าวต่อไป
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง