ท่วงท่า อาการ จุดร่วม กับ จุดต่าง ระหว่าง “มิตร”
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ท่วงท่า อาการ จุดร่วม กับ จุดต่าง ระหว่าง “มิตร” – ท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อรอย “ร้าว” อันเกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะมองผ่าน นายภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ว่าจะมองผ่าน นายสุทิน คลังแสง
น่ายกย่อง น่าชมเชย
น่ายกย่องที่แสดงออกอย่างทันท่วงทีกับสภาพการณ์ที่ปะทุขึ้นจากความเข้าใจผิด น่าชมเชยที่แสดงวุฒิภาวะอันเปี่ยมด้วยความรับผิดชอบทางการเมือง
เท่ากับยื่นมือแห่ง “ไมตรี” ไปเชื่อมประสาน
ผลก็คือ รอย “ร้าว” ที่อาจกลายเป็นปัญหาแม้จะยังไม่ยุติลงได้อย่างฉับพลันทันใด กระนั้น ก็ยังเป็นการสมานและสร้างความเข้าใจในระดับอันแน่นอนหนึ่ง
การที่คนอย่าง นายภูมิธรรม เวชยชัย การที่คนอย่าง นายสุทิน คลังแสง จะสามารถเปิดใจกว้างได้ในลักษณะสร้างสรรค์เช่นนี้เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองมาอย่างดี
รู้ว่าใครเป็น “มิตร” รู้ว่าใครเป็น “ศัตรู”
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นยังอยู่บนพื้นฐานที่ตระหนักอย่างเปี่ยมด้วยเหตุผลว่า ศัตรูทางการเมืองที่ยืนทะมื่นอยู่เบื้องหน้ามิได้เป็นศัตรูอย่างธรรมดา
ตรงกันข้าม เป็นศัตรูที่อำมหิตเหี้ยมอย่างยิ่ง
ชะตากรรมของพรรคไทยรักไทย ชะตากรรมของพรรคพลังประชาชน เป็นบทเรียนอย่าง แจ่มชัด และขณะนี้มีความต้องการที่จะจัดการกับพรรคอนาคตใหม่
ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตใหม่มิได้เป็นอย่างเดียวกันอย่างแน่นอน เพราะรากฐานการก่อตั้งพรรคแตกต่างกัน ยุคสมัยแห่งการเกิดขึ้นก็แตกต่างกัน
แต่ถามว่าเป้าหมายทางการเมืองเป็นอย่างเดียวกันหรือไม่
ตอบได้เลยว่าอย่างน้อยก็มี 2 เป้าหมายที่ไม่แตกต่างกัน 1 คือเป้าหมายในการต่อต้านการรัฐประหาร และ 1 คือ เป้าหมายในการต่อต้านการสืบทอดอำนาจ
มิเช่นนั้น “สัตยาบัน แลงคาสเตอร์” คงไม่เกิดขึ้น
เมื่อมีจุดร่วมใหญ่ในทางการเมืองตรงกัน ข้อแตกต่างบางอย่างอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพรรคก็จำเป็นต้องสงวนเอาไว้บนพื้นฐานแห่งหลักการ “แสวงจุดร่วม สงวน จุดต่าง”
รอยร้าวเล็กอันบังเกิดขึ้นก็มิได้เป็นรอยร้าวระหว่างพรรคซึ่งเป็นศัตรูกัน ตรงกันข้าม เป็นรอยร้าวระหว่างพรรคอันเป็นมิตรกัน
มาจากความรัก มาจากความห่วงใย
เพียงแต่รายละเอียดและการสำแดงความรัก ความห่วงใยก่อให้เกิดความเข้าใจและสร้างความสะเทือนใจให้กับ กันและกันบ้างเท่านั้นเอง
แค่นี้ย่อมมิใช่เรื่องใหญ่ ย่อมไม่ยากที่จะยื่นนิ้วก้อยให้แก่กัน
อ่านข่าว