แฟ้มคดี

คืบหน้าเป็นลำดับ สำหรับการหาที่มาของศพชาวต่างชาติแช่แข็งอยู่ในตู้เย็น แหล่งกบดานแก๊งพาสปอร์ตปลอม

ซึ่งพบว่าถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ถึง 11 ท่อน แช่ไว้นานนับปี

เมื่อผลการตรวจสอบดีเอ็นเอแล้วพบว่าน่าจะเป็นชาวฮังการี

และเสียชีวิตด้วยยาพิษ ประกอบด้วยการขาดอากาศหายใจ

เหลือก็เพียงสืบหาตัวฆาตกร รวมทั้งแรงจูงใจในการฆ่าเท่านั้น

* รู้แล้วหนุ่มฮังการีถูกฆ่ายัดตู้เย็น

กลายเป็นคดีปริศนาที่ต้องเร่งคลี่คลาย สำหรับการบุกจับแก๊งพาสปอร์ตปลอม ชาวต่างชาติ เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายปีเตอร์ วิลเลียม จอห์นสัน อายุ 63 ปี นายอารอน โทมัส กาเบล อายุ 33 ปี และ นายเจมส์ ดักลาส อีเกอร์ อายุ 66 ปี ชาวอเมริกัน คาอาคารพาณิชย์กลางกรุงย่านพระโขนง

%e0%b9%81%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%a11

เมื่อตรวจสอบตู้เย็นที่อยู่ในอาคาร ดังกล่าวพบศพปริศนาแช่ยัดตู้เย็น

แถมถูกหั่นเป็น 11 ท่อนอย่างสยดสยอง

จากการสอบสวนพบว่ามีชายชาวต่างชาติมาซื้อตู้เย็นดังกล่าวเมื่อประมาณ 8 ปีก่อน จากร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. แล้วว่าจ้างให้ไปส่งที่บ้านพักในซอยเอกมัย 12 ถนนสุขุมวิท 63 ซึ่งเป็นที่อยู่ของนายปีเตอร์ ก่อนย้ายมาเช่าอาคารพาณิชย์ที่ถูกจับกุมได้เพียง 4 เดือน

ทั้งนี้ มีพยานยืนยันว่าเห็นตู้แช่นี้มานานแล้ว โดยนายปีเตอร์ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ หรือเปิดดู บางทีขณะทำความสะอาดก็มีกลิ่นเหม็นโชยออกมา คาดว่าเป็นศพที่ถูกแช่นานหลายปีแล้ว

จากการส่งไปเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 3 มิติ ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ไม่พบร่องรอยกระดูกหัก แต่พบเนื้อเยื่อบริเวณคอหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่พบตำหนิ หรือรอยสักตามร่างกาย

ผศ.นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าฝ่ายนิติเวชศาสตร์ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาด ไทย เผยว่า จากการชันสูตรและวิเคราะห์ชิ้นส่วนมนุษย์แช่แข็ง 11 ชิ้น เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล สาเหตุและพฤติการณ์การตาย

ระบุได้ว่า ผู้ตายเป็นเพศชาย อายุประมาณ 40-50 ปี ส่วนสูงประมาณ 179.5 เซนติเมตร โดยบวกลบส่วนสูงไม่เกิน 5 เซนติเมตร เชื้อชาติยุโรปตะวันออกทางตอนใต้ สันนิษฐานเบื้องต้นว่าเชื้อชาติฮังการี โดยเจ้าหน้าที่นำดีเอ็นเอของศพไปเทียบกับพันธุกรรมที่มีในฐานข้อมูล พบว่าตรงกับฐานข้อมูลของฮังการี 2 ชุด แต่เรื่องสัญชาติต้องตรวจสอบอีกครั้ง

สำหรับเวลาตายนั้นไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากศพถูกแช่แข็งมานาน แต่ไม่น่าถึง 8 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ซื้อตู้แช่ โดยศพอยู่ในท่าทางงอคุดคู้ ทั้งงอเข่า และงอคอยัดในตู้เย็นแช่แข็ง ก่อนจะนำมาหั่นด้วยเลื่อยไฟฟ้า 11 ท่อน แต่ละท่อนก็สามารถเชื่อมโยงกันได้

สาเหตุการตายเบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากการขาดอากาศและหรือการใช้ยาหรือสารพิษร่วมด้วย เนื่องจากว่าสภาพศพไม่พบบาดแผลภายนอก ไม่นับการเอาเลื่อยหั่นศพ ส่วนภายในก็ไม่พบบาดแผลใด มีแต่อวัยวะที่เน่าลงไป แต่ก็เป็นการเน่าแบบแช่แข็ง

นอกจากนี้ พบหลอดเลือดหัวใจตีบตันน่าจะเป็นโรคประจำตัวของผู้ตาย แต่ไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิต

ต้องรอผลตรวจจากทางนิติพิษวิทยาอีกครั้งว่าการเสียชีวิตเกิดจากสาเหตุใด

%e0%b9%81%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%a13

* นาทีบุกจับแก๊งพาสปอร์ตเก๊

สำหรับเหตุระทึกขวัญครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 23 ก.ย. เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวที่ได้เบาะแสว่ามีคนร้ายชาวต่างชาติแก๊งปลอมแปลงพาสปอร์ต มากบดานเช่าอาคารพาณิชย์ เลขที่ 18/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.

จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น แต่เมื่อเจอกลุ่มผู้ต้องหากลับถูกคนร้ายยิงสวนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่สุดท้ายก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด และแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พระโขนง เจ้าของพื้นที่เข้าตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 5 ชั้น ที่บริเวณชั้น 4 เป็นห้องโถง พบร่างของ จ.ส.ต.กัญจนพงษ์ เชเดช ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. ถูกยิงเข้าที่ชายโครงขวา และลิ้นปี่ บาดเจ็บสาหัส จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ

ขณะที่ตำรวจควบคุมผู้ต้องสงสัยเป็นชาวต่างชาติ 5 ราย ประกอบด้วย นายปีเตอร์ วิลเลียม จอห์นสัน อายุ 63 ปี นายอารอน โทมัส กาเบล อายุ 33 ปี และ นายเจมส์ ดักลาส อีเกอร์ อายุ 66 ปี ทั้งหมดใช้พาสปอร์ตสัญชาติอเมริกัน กับอีก 2 คนเป็นผัวเมียชาวพม่า ซึ่งให้การว่าเป็นเพียงแม่บ้านทำความสะอาดเท่านั้น จึงกันตัวไว้เป็นพยาน

พร้อมกันนั้นยึดของกลางได้หลายรายการ ประกอบด้วยปืนพกสั้นแบบลูกโม่ 1 กระบอก ปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ 2 กระบอก ยาไอซ์ กัญชา

ทั้งนี้พบว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ได้ให้นายปีเตอร์เปิดตู้เซฟที่คาดว่าจะมีของผิดกฎหมาย แต่นายปีเตอร์อาศัยจังหวะเผลอ คว้าปืนพกสั้น 9 ม.ม. ที่อยู่ในตู้เซฟ ยิงใส่จ.ส.ต.กัญจนพงษ์ 3 นัดซ้อน ก่อนที่จะถูกควบคุมตัว

เมื่อตรวจสอบที่ชั้น 1 พบตู้แช่แข็งขนาด 2×3 เมตร ล็อกกุญแจแน่นหนา เมื่อเปิดออกดูก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบศพชายชาวต่างชาติ ผมสีทอง ถูกหั่นแยกเป็น 11 ชิ้น ใส่ถุงดำมัดไว้อย่างแน่น หนา

กลายเป็นคดีที่งอกขึ้นมา ที่ต้องเร่งคลี่คลาย!??

* หัวโจกสารภาพฆ่าเพราะหนี้

จากการตรวจสอบประวัติทั้ง 3 เอฟบีไอยืนยันว่าเป็นชาวอเมริกันใช้พาสปอร์ตปลอม เดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง โดยนายปีเตอร์เข้าออกผ่านสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ขณะที่นายอารอนเดินทางทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ จุดตรวจถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หลายต่อหลายครั้ง ส่วนนายเจมส์ ดักลาส เข้าๆ ออกๆ ผ่านสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ

%e0%b9%81%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%a12

โดยนายปีเตอร์ที่น่าจะเป็นตัวการใหญ่ของแก๊งปลอมพาสปอร์ต เป็นนักเคมีอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่เดินทางเข้ามาทำธุรกิจ ที่ประเทศมาเลเซีย จนมีภรรยาเป็นชาวมาเลเซีย แต่มีปัญหาฟ้องร้องกัน จึงเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า 8 ปี ก่อนจะมารู้จักกับผู้ต้องหาอีก 2 คน แล้วอ้างว่าร่วมทำธุรกิจขายแบตเตอรี่

ส่วนนายอารอนเคยทำงานที่บริษัทต่างชาติ เมื่อมาอยู่เมืองไทยก็มีภรรยาเป็นนักศึกษาย่านหัวหมาก เชื่อได้ว่ารู้จักกันระหว่างตั้งแก๊งปลอมพาสปอร์ต ส่วนนายเจมส์ ดักลาส นั้นเคยทำบริษัทน้ำมันที่สหรัฐอเมริกา ต่อมาเข้ามาอยู่ในประเทศไทย มีภรรยาเป็นคนไทย ซึ่งเลิกรากันไปแล้ว มีลูกสาว 1 คน อายุ 17 ปี

ทั้งนี้จากการตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุ ก็พบสารเคมีหลายชนิด บางอย่างเป็นสารต้องห้าม คาดว่านำมาใช้ในการปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งส่งรายชื่อสารเคมีไปยังสถานทูตสหรัฐ เพื่อส่งต่อเอฟบีไอว่า มีความเชื่อมโยงกับแก๊งพาสปอร์ตปลอมแก๊งอื่นด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลบริษัทค้าขายแบตเตอรี่ ที่ผู้ต้องหาตั้งขึ้นมา พบว่าไม่ได้ขายผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าตามที่ระบุ แถมยังพบเงินในบัญชีหมุนเวียนอีกเดือนละ 1 แสนบาท

เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายอารอน และนายเจมส์ ดักลาส ฝากขังศาลจังหวัดพระโขนง พร้อมแจ้ง 5 ข้อหา คือ พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน, ซ่อนเร้นหรืออำพรางศพ, ขัดขวางการจับกุมเจ้าหน้าที่, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1-2 และ 5 ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน

ส่วนนายปีเตอร์ที่เป็นผู้ยิงตำรวจบาดเจ็บ อ้างว่าตั้งใจจะยิงตัวตาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาแย่งปืน ทำให้ปืนลั่นใส่ ขณะที่ตำรวจระบุว่านายปีเตอร์ใช้ปืนเล็งมาแล้วยิงใส่นั้นถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากพยายามฆ่าตัวตาย ด้วยการบิดข้อมือตัวเองจนเกิดบาดแผล

ทั้งนี้ เอฟบีไอแจ้งข้อมูลว่านายปีเตอร์ที่แท้คือ นายเฮอร์เบิร์ต เครก ลาฟอง ชาวอเมริกัน ที่มีประวัติฉ้อโกงและปลอมบัตรเครดิต

พร้อมทั้งเปิดปากยอมรับว่าร่วมกับเพื่อนฆ่าผู้ตายเองด้วยการซ้อม เนื่องจากตกลงกันไม่ได้เรื่องหนี้สิน เมื่อเสียชีวิตก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงไปซื้อตู้แช่มาใส่ศพ

โดนข้อหาฆาตกรรมไปอีกคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน