สดจากสนามข่าว

ณเดช โรจนประดิษฐ์ เรื่อง/ภาพ

เทคโนโลยีการสื่อสารในยุคดิจิตอล ช่วยย่อโลกทั้งใบให้มาอยู่ในอุ้งมือ

ยิ่งสังคมออนไลน์อย่าง เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์ ฯลฯ ไม่ว่าจะอยากติดต่อสื่อสารใคร

เพียงแต่คลิกเดียวก็พูดคุยกันได้ในทันใด ทำให้เราได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ทั่วโลกได้ในพริบตา

ส่วนสุจริตชนที่ค้าขายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ต่างก็ใช้ดำเนินธุรกิจได้แบบเวิลด์ไวด์ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

แต่ขณะเดียวกันความสะดวกสบายในการสื่อสารดังกล่าวก็ถูกใช้เป็นช่องทางในการค้าสิ่งผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด ได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน

สอบผู้ต้องหาทั้งคู่

ล่าสุดตำรวจ 191 ก็โชว์ฝีมือบุกรวบพ่อค้ายาเสพติดที่ใช้โซเชี่ยลออนไลน์เป็นเครื่องมือติดต่อลูกค้าได้คาบ้านพัก พร้อมของกลางจำนวนมาก

คดีนี้เป็นข่าวโด่งดัง ในช่วงเที่ยง วันที่ 4 มิ.ย. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.สปพ.) หรือตำรวจ 191 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมพ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่ทหารร้อย รส.ม.พัน. 2 พล.ร.2 รอ.

ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายปิยณัฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี และนายศราพิชัย หรือเซียร์ ศิริประยงค์ อายุ 20 ปี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งน้ำหนักรวม 37 ก.ก. ยาบ้า 4,000 เม็ด เครื่องชั่งน้ำหนัก 2 เครื่อง สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท

รถยนต์ฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา ทะเบียน พก 1393 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เงินสด 73,600 บาท และโทรศัพท์ มือถือ 4 เครื่อง

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายปิยณัฐลักลอบค้ากัญชา โดยนำมาซุกซ่อนไว้ที่บ้านพักภายในหมู่บ้านเพอร์เฟคปาร์ค เลขที่ 11/78 ซอยร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม.

ก่อนนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไปในย่านร่มเกล้าและซอยรามคำแหง 160 (ซอยมิสทิน)

นอกจากนั้นยังจำหน่ายผ่านทางออนไลน์และโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งเป็นกลุ่มลับในแอพพลิเคชั่นไลน์และเฟซบุ๊ก

เมื่อตกลงราคากันได้จะให้ลูกค้าโอนเงินชำระค่ายาเสพติดจากนั้นจะแพ็กยาเสพติดส่งมอบให้ลูกค้าผ่านทางบริการไปรษณีย์

1.เอเยนต์ออนไลน์ถูกบุกจับคาหนังคาเขา 2.นายศราพิชัย ศิริประยงค์ เครือข่ายที่ถูกรวบด้วย 3.ซ่อนของกลางในตู้เสื้อผ้า

เจ้าหน้าที่บก.สปพ. จึงสนธิกำลังกับทหารสังกัดร้อย รส.ม.พัน. 2 พล.ร.2 รอ. เข้าตรวจค้นที่บ้านพักเป้าหมาย

จนกระทั่งพบนายปิยณัฐ พร้อมของกลางอัดแท่ง จำนวน 37 แท่ง ซุกซ่อนอยู่ภายในตู้เสื้อผ้าบริเวณห้องนอนชั้นบน

พร้อมสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท เงินสด 73,600 บาท และโทรศัพท์มือถือซึ่งมีข้อมูลการติดต่อซื้อขายยาเสพติด จึงตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนายปิยณัฐให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เป็นพนักงานเสิร์ฟภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านรามอินทราแต่รายได้ไม่พอ

ต่อมารู้จักกับลูกค้าชื่อเล่นว่า “แมว” ได้ชักชวนให้ค้ากัญชากับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จึงตัดสินใจร่วมเข้าขบวนการค้ายาเสพติดซึ่งทำมาได้ 4 เดือนเท่านั้น

ทั้งนี้กลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติดของผู้ต้องหาได้กระจายอยู่กันอีกหลายพื้นที่ โดยแต่ละรายจะแบ่งจำหน่ายประเภทกันออกไปมีทั้งยาไอซ์ ยาบ้า ยาเค กัญชา ยาแก้ไอและใบกระท่อม

เมื่อมีผู้เสพจำนวนมากจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติมทางโลกสังคมออนไลน์

เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าในเครือข่ายของนายปิยณัฐ มีนายศราพิชัยเป็นผู้ค้ายาบ้าซึ่งพักอาศัยอยู่ย่านร่มเกล้า จึงขยายผลเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้า 4 พันเม็ด

เมื่อตรวจสอบพบว่าของกลางที่นำมาจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้านั้น จะขายในราคาถูกกว่าปกติเฉลี่ยเพียงแค่เม็ดละ 22 บาทเท่านั้น เพื่อตัดราคาคู่แข่งบนโลกสังคมออนไลน์

โดยของกลางนั้นรับมาจากเอเยนต์ที่ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งลักลอบนำเข้ามาจากจังหวัดมุกดาหาร หนองคาย และนครพนม

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล แถลงผลจับกุม

“ผมจะนัดทางไปรษณีย์และบริษัทเอกชนที่รับส่งพัสดุเข้าร่วมประชุม เพื่อหามาตรการเชิงรุกแนวทางป้องกันการลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายทั้งอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และยาเสพติด ทั้งนี้อยากฝากเตือนถึงขบวนการค้ายาเสพติดให้เลิกโฆษณา หรือแข่งขันจำหน่ายกันบนโลกสังคมออนไลน์หากตรวจพบจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว

ไม่ว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะสรรหาวิธีการซับซ้อน เพื่อจำหน่ายยานรกมากขนาดไหน แต่ก็ไม่เกินขีดความสามารถของผู้พิทักษ์กฎหมายจะลากคอมาลงโทษตามกบิลเมือง (หน้า 2)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน