คอลัมน์ สดจากเยาวชน : มิติใหม่เด็กไทย ออนไลน์-ออฟไลน์

มิติใหม่เด็กไทย – แม้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ การผสมผสานการเรียนในห้องเรียนและการเรียนออนไลน์เข้าด้วยกัน นับเป็นหนึ่งในการเตรียมความพร้อม

เพื่อไม่ให้การศึกษาของเด็กและเยาวชนสะดุด ด้วยการดึงจุดแข็งของการเรียน 2 รูปแบบส่งเสริมกัน

นายธกานต์ อานันโทไทย ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โกลบิช อคาเดเมีย (ไทยแลนด์) จำกัด (Globish) กล่าวว่า แม้การเรียนในแบบออนไลน์จะมีจุดแข็งมากมาย อาทิ สร้างโลกการศึกษาไร้พรมแดน ประหยัดเวลาในการเดินทางและค่าใช้จ่าย

เป็นศูนย์รวมแหล่งข้อมูล ผู้เรียนเข้าถึงเนื้อหาได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว แต่ยังมีจุดอ่อนที่ชดเชยด้วยการเรียนในห้องเรียนได้ การเรียนในห้องเรียนช่วยให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้น ฝึกการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงฝึกการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในห้องเรียน

“วิกฤตโควิด-19 เป็นจุดเร่งการเปลี่ยนแปลงให้การศึกษาทั่วโลกปรับตัวสู่การเรียนการสอนบนออนไลน์เร็วขึ้น แบ่งรูปแบบเป็น E-leaning และ Live Online ส่งเสริมการนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจและกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างนักเรียนและครูมากขึ้น

ฉะนั้นควรถือโอกาสประยุกต์การเรียนการสอนออนไลน์เข้ากับการเรียนการสอนในห้องเรียนเพื่อเติมเต็มการเรียนการสอนที่ทรงประสิทธิภาพให้ระบบการศึกษาไทย” นายธกานต์กล่าว

ด้าน น.ส.ชื่นชีวัน วงษ์เสรี เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้ง Globish เผยว่า Globish ออกแบบทุกหลักสูตรและพัฒนาทุกแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์การเรียนการสอนของครูและนักเรียน เช่น การจัดสรรเนื้อหาการเรียน เทคนิคการสอน การใช้สื่อการสอนต่างๆ และการจัดสรรเวลาในชั่วโมงเรียนแต่ละวัน

แม้ว่าการเรียนในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์นั้นแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือเป้าหมายในการมุ่งผลักดันยกระดับความรู้ความสามารถเด็กไทยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

“ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่นอกเหนือจากเด็กนักเรียนต้องปรับตัวให้พร้อมรับมือการเรียนรูปแบบใหม่แล้ว วันนี้ครูผู้สอนอาจต้องพัฒนาเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อปรับรูปแบบการสอนใหม่ การเรียนออนไลน์ทำให้เด็กกลับมาย้อนดูได้ แต่การทำให้เด็กโฟกัสตอนเรียนได้ดีเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่สุด” น.ส.ชื่นชีวันกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน