คอลัมน์ รายงานพิเศษ : ‘โครงการสะพานบุญ’ จากหมอดีเด่นด้านบริการชุมชน

ในปี 2563 นี้สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ได้คัดเลือก นพ.ธนะบุญ ประสานนาม รองผู้อำนวยการและแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังประจำโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี วัย 57 ปี เป็นแพทย์ดีเด่นด้านการบริการชุมชน

โดย นพ.ธนะบุญเป็นผู้ดำเนินการ ‘โครงการสะพานบุญ’ เพื่อจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงผู้ยากไร้

นพ.ธนะบุญกล่าวว่า หลังจากจบแพทย์ก็เริ่มทำงานเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง โดยช่วงแรกนอกจากตรวจทางด้านผิวหนังโดยเฉพาะแล้ว ก็ต้องช่วยทางแผนกอายุรกรรมไปด้วย นอกจากจะตรวจคนไข้นอกและตรวจคนไข้ในแล้ว ยังอยู่เวรห้องฉุกเฉินเหมือนกับแพทย์ทั่วไป

ช่วงหนึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บริหารให้เป็นหัวหน้ากลุ่มงานผู้ป่วยนอก ซึ่งจะทำงานเชื่อมโยงไปสู่ชุมชน การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ทำให้เราเริ่มมองเห็นปัญหาของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ว่า มันคงไม่ใช่เพียงแค่ให้คนไข้หลั่งไหลเข้ามารักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น เราเริ่มไปเยี่ยมบ้าน เราเริ่มไปดูแล สนับสนุนอนุเคราะห์ในเรื่องของความเป็นอยู่ เรื่องของเครื่องมือเครื่องใช้ การดูแลรักษาให้ครบทุกมิติ

นพ.ธนะบุญกล่าวต่อว่า แพทย์บางคนถ้าไม่ได้ไปเยี่ยมที่บ้านคนไข้อาจจะไม่รู้ว่าคนไข้คนนี้ทำไมถึงขาดยา ทำไมคนไข้คนนี้ถึงปฏิบัติตัวไม่ได้ตามที่เราแนะนำ เช่น บอกให้กินอาหารหรือสิ่งที่มีประโยชน์ แต่พื้นฐานของครอบครัวไม่มีอะไรจะกิน พอเราเข้าไปถึงได้เห็นมุมมองของสภาพความเป็นจริง

แต่การไปเยี่ยมบ้านทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วเขายังต้องการความช่วยเหลือหลายๆ ด้าน หรือสิ่งที่เราเรียนรู้ทางทฤษฎี ถ้าจะมาปรับใช้กับสิ่งที่เราเห็นอยู่ตรงหน้าจะทำอย่างไรบ้าง จะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดมากกว่า

“โดยปกติหากผมไม่ติดภารกิจอะไร ช่วงบ่ายก็จะไปกับทีมที่เรียกว่า เวชกรรมสังคม ซึ่งประกอบไปด้วย หมอและกลุ่มงานพยาบาลชุมชน เราจะร่วมกันไป ซึ่งหลังๆ จะเริ่มมีพันธมิตร มีการนำแพทย์เฉพาะทางไปดูแล คนไข้ที่เป็นเบาหวาน หรือคนไข้โรคไต ก็พาแพทย์โรคไตไปดูด้วย

ตรงนี้เราทำงานร่วมกันเป็นทีม ไปถึงดูแลคนไข้ตรงพื้นที่ แก้ไขให้ตรงกับบริบทปัญหาที่เขาเป็น ซึ่งจะแก้ได้ถูกจุดมากกว่า แล้วแพทย์ก็มีความเข้าใจว่า จริงๆ คนไข้เป็นแบบนี้นะ ทำให้เราทราบสาเหตุของการควบคุมโรคไม่ได้

“จากที่เราไปเยี่ยมบ้าน จะเห็นว่าบ้านนี้นอนติดอยู่กับเตียง ขาดเตียงที่ดีๆ เตียงที่เหมาะสมกับคนไข้ ไม่มีรถเข็นนั่งที่จะพาเขาออกมาข้างนอกได้ พอเราเห็นตรงนี้เราก็เริ่มบอกว่าเราจะช่วยเหลืออย่างไร

เริ่มต้นจากทุนส่วนตัวก่อนเพราะเราไม่รู้จะช่วยอย่างไร ซื้อเตียง ซื้อที่นั่ง รถเข็นไปให้ พอไปสักระยะหนึ่งสิ่งที่เราทำดีคนไข้ได้ประโยชน์ เราลองโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า ขาดตรงจุดนี้ยังมีคนไข้ที่ต้องการสิ่งที่สนับสนุนพวกนี้อยู่ มีใครสนใจอยากจะช่วยเหลือให้คุณภาพชีวิตคนไข้ดีขึ้นหรือเปล่า ก็เลยเกิดโครงการสะพานบุญ ที่มีผู้มีจิตศรัทธาที่เห็นหลั่งไหลเข้ามาบริจาคเป็นจำนวนมาก”

นพ.ธนะบุญกล่าวอีกว่า ถึงตอนนี้โครง การสะพานบุญ เป็นการบอกต่อ เมื่อบอกต่อก็จะมีคนที่จะบริจาคอยู่เรื่อยๆ พอบริจาคมาเราจะให้ทางพื้นที่เป็นคนดูแลรักษา สมมติว่าเมื่อคนไข้คนนี้หมดความจำเป็นที่จะต้องใช้ เราก็นำจัดส่งต่อให้คนไข้รายอื่นๆ ต่อไป ก็จะเป็นการหมุนเวียนใช้กันอยู่ในชุมชน

ตรงนี้เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่ามีความภาคภูมิใจว่า เราไปดูแลเรื่องโรคผิวหนังแล้วยังดูเรื่อง อื่นๆ แล้วคนไข้ก็ได้ประโยชน์ แล้วก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ก็เหมือนกับพอสิ่งที่ได้มา เมื่อคนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้วเราก็รู้สึกชื่นใจ สบายใจ ก็มีกำลังใจที่จะทำงานที่ดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน