คอลัมน์ ข่าวสดหรรษา โดยพรพิมล แย้มประชา

โควิด-19 เพิ่งสร่าง หลายคนอยากออกไปสูดอากาศให้เต็มปอด มีโอกาสติดตามกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปขึ้นเขา-ลงน้ำ-เข้าถ้ำ ลัดเลาะสถานที่ท่องเที่ยว จ.นครพนม และ จ.บึงกาฬ ในทริป “ตามรอยตีนไดโนเสาร์ที่นครพนม ชมหินเกล็ดพญานาคถ้ำนาคา ล่องนาวาน้ำตก ถ้ำพระที่ภูวัว แหวกดูตัวหินสามวาฬ ชมปรากฏการณ์ทะเลทรายในอดีตที่ภูทอก”

และพิสูจน์ความหฤหรรษ์ “ตำนานถ้ำนาคา” ซึ่งกำลังเป็นที่โจษจัน

ลงจากเครื่องบินที่นครพนม ไปชมถิ่นพระธาตุอันเลื่องชื่อ ดั่งคำขวัญจังหวัดที่ว่า “พระธาตุล้ำค่า วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง” เป็นจังหวัดที่มีพระธาตุประจำวันเกิด 8 องค์ครบจบในจังหวัดเดียวของไทย

เครื่องบินชั่วโมงเศษถึงสนามบินนครพนม คณะไม่รอช้ารีบไป เช็กอินที่พระธาตุท่าอุเทนทันที ระยะทาง 41 ก.ม. จากสนามบิน

เป็นพระธาตุประจำคนเกิดวันศุกร์ สูง 66 เมตร หรือ 33 วา พระธาตุที่สูงที่สุดในลุ่ม น้ำโขง อายุ 108 ปี บรรจุพระพุทธสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมารวมทั้งพระพุทธรูปและ

ของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวาย

บนยอดพระธาตุมีทองคำฝังเพชรน้ำหนัก 22 กิโลกรัม คนเกิดวันศุกร์ให้จุดธูป 21 ดอกไหว้สักการะ คนเกิดวันอื่นไหว้ด้วยธูป 3 ดอกเชื่อว่าผู้นมัสการพระธาตุแห่งนี้จะหนุนนำให้ชีวิตรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ

ไดโนเสาร์จำลอง

ไปต่อที่บ้านไชยบุรี อ.ท่าอุเทน ชมวิวแม่น้ำสองสีอิ่มตาที่ปากน้ำไชยบุรี เป็นจุดบรรจบแม่น้ำสงครามกับแม่น้ำโขง ห่างจากตัวจังหวัด 47 ก.ม. ตามทางหลวง 212 นครพนม-บ้านแพงใครชอบวิถีสโลว์ไลฟ์ใช้บริการโฮมสเตย์พักค้างคืน ตื่นมาปั่นจักรยาน นอนอ่านหนังสือ หรือเที่ยวดูวัดวาศึกษาประวัติศาสตร์เมืองโบราณไชยบุรีก็เข้าท่า เหนื่อยก็พักสายตา ชมวิวน้ำโขงไหลเอื่อยๆ

รอยตีนไดโนเสาร์

เช็กอินที่สองต้องสวมวิญญาณนักธรณีวิทยา ตามรอยตีนไดโนเสาร์ยุคครีเทเซียสที่ ต.พนอม อ.ท่าอุเทน มีรอยเท้าไดโนเสาร์ นกกระจอกเทศ หรือออร์นิโธมิโมซอร์ อายุกว่า 100 ล้านปี ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์แห่งแรกของไทยเมื่อปี 2554

มีทั้งรอยตีนไดโนเสาร์ปากเป็ด หรืออิกัวโนดอน และจระเข้ขนาดเล็กนับเป็นแหล่งที่มีหลักฐานรอยทางเดินจำนวนมากกว่า 1,000 รอย หนาแน่นที่สุดเท่าที่เคยพบในภูมิภาคอาเซียน
บ่ายคล้อยแดดเปรี้ยง แต่โปรแกรมยังไม่จบ จุดเช็กอินที่สาม จุดสุดท้ายของวันแรก “น้ำตกตาดโพธิ์” อุทยานแห่งชาติภูลังกา ตั้งขนานกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 ห่างจากตัวจังหวัด 105 ก.ม.

ห่างจาก จ.บึงกาฬ 85 ก.ม. ครอบคลุมพื้นที่ อ.บ้านแพง อ.นาทม จ.นครพนมและ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

โฮมสเตย์กับวิถีสโลว์ไลฟ์

ตัวน้ำตกตาดโพธิ์ถือกำเนิดจากเทือกเขาภูลังกา สามารถเดินเท้าจากที่ทำการอุทยานฯ ไปแค่ 100 เมตร น้ำตกตาดโพธิ์มี 4 ชั้น แต่ละชั้นสูงไม่น้อยกว่า 10 เมตร ส่วนชั้นที่ 4 สูง 50 เมตร

คณะเยี่ยมชมอาณาจักรไดโนเสาร์

นายพันธ์ยศ กีรติพงศ์ศักดา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา ระบุว่า อุทยานฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการเต็มรูปแบบ แต่จำกัดไม่เกิน 500 คนต่อวัน ใน 4 จุด คือ น้ำตกตาดขาม 200 คน น้ำตกตาดโพธิ์ 200 คน ถ้ำนาคา 50 คน น้ำตกตาดวิมานทิพย์ 50 คน โดยแจ้งจำนวนคนและวันเข้าพื้นที่ล่วงหน้าผ่านแอพพลิเคชั่น QueQ อีกทั้งยังงดกิจกรรมลงเล่นน้ำทุกจุดจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอื่น

แต่น่าเสียดายเจ้าหน้าที่บอกฝนทิ้งช่วงมา 3-4 วัน บ่ายแก่ๆ ที่คณะไปถึงน้ำตกตาดโพธิ์มีปริมาณน้ำไม่มาก อดเห็นม่านน้ำตกฉากใหญ่ แถมยังไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ จึงได้แต่นั่งชมธรรมชาติเก็บภาพผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์เขียวชอุ่มให้ชุ่มชื่นหัวใจให้มายั่วน้ำลายเท่านั้น ก่อนเดินทางออกจากอุทยานฯ

บ้านไชยบุรี

แสงแดดเริ่มอ่อนแรงลง อาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า คณะย้อนกลับเข้าตัวอำเภอบ้านแพง จ.นครพนม เข้าที่พัก เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินทางขึ้นสู่ยอดภูลังกา ท้าพิสูจน์หินเกล็ดพญานาค กำลังฮือฮาในโลกโซเชี่ยล ที่ถ้ำนาคา ว่าจะเป็นอย่างไรในวันรุ่งขึ้น

ลาบปลา

ก่อนเดินทาง จินตนาการมาตั้งแต่ที่กรุงเทพฯ ว่า เสียงร่ำลือกันว่า “ตัวอยู่ไทย หัวอยู่ลาว” นั้น ชัยภูมิ

เขตกั้นของภูเขาลูกนี้เป็นยังไง? ต้องข้ามไปฝั่งลาวไหม? รูปร่างจริงจะเป็นยังไง? เหมือนอย่างที่ว่ากันหรือเปล่า? นึกวนเวียนไปมาอยู่ในหัวจนผล็อยหลับไป

ฉบับหน้ามาติดตามว่าขึ้นเขา-ลงน้ำ-เข้าถ้ำ ที่เกริ่นไว้ข้างต้นจะตื่นเต้นขนาดไหน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน