พ่อค้าเขียงหมูห่วงราคาหน้าฟาร์ม – เรียน บ.ก.ข่าวสด

ผมเป็นพ่อค้าเขียงหมูอยู่ภาคใต้ มองว่าการปรับขึ้นราคาหมูหน้าฟาร์มครั้งนี้ปรับขึ้นเร็วกว่าปกติ เพราะหลังจากปลดล็อกโควิด-19 ทำให้ราคาก็ขยับขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนมิ.ย. จากเดิมหมูเป็นหน้าฟาร์ม กิโลกรัมละ 70 บาท

ตอนนี้ปรับราคาขายเป็นกิโลกรัมละ 75-85 บาท ทำให้ราคาขายปลีกเนื้อหมูในตลาดสดต้องปรับราคาขึ้นตาม จากเดิมอยู่ที่กิโลกรัมละ 150-155 บาท ปรับราคาขึ้นเป็น 160-170 บาท เป็นการปรับราคาเร็วและแพงสุด แต่ราคาหมูที่แพงแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย แต่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นแบบนี้

ซึ่งบรรดาพ่อค้า แม่ค้า เขียงหมูต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขออย่าให้ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มขยับราคาขึ้นอีก ขอให้ราคานิ่งเท่านี้ไปก่อนเพราะยังสามารถอยู่ได้ ลูกค้ายังพอมีกำลังซื้อ แต่ถ้าราคาหน้าฟาร์มขยับราคาขึ้นอีก ก็จะเริ่มขายยาก

เพราะตอนนี้ลูกค้าก็มาซื้อลดลง จากเดิมเคยซื้อ 10 กิโลกรัม ก็ลดลงเหลือ 5 กิโลกรัม อยากให้รัฐบาลเข้ามาคุมราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มอย่างเร่งด่วน โดยขอให้ราคาลดลง คุมราคาอยู่ที่ 70-75 บาทเหมือนเดิม ราคาขายปลีกหน้าร้านก็จะอยู่ที่ 160 บาท

ซึ่งเป็นราคาที่ยังพอรับได้ ลูกค้าจะได้หันกลับมาซื้อเนื้อหมูไปบริโภคกันมากขึ้น เพราะขณะนี้แม่ค้า-พ่อค้าเขียงหมูเดือดร้อนมาก ถ้าขายแพงลูกค้าก็ไปซื้ออย่างอื่น ทำให้การขายหมูทุกวันนี้ไม่มีกำไร และต้องขาดทุนทุกวัน แต่ยังไงก็ต้องขายเพราะเห็นใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

ด้วยความเคารพ

ชาติ








Advertisement

ตอบ คุณชาติ

ขอบคุณที่ช่วยสะท้อนปัญหามา เพราะราคาหมูที่แพงขึ้นย่อมมีผลกระทบกับประชาชนผู้บริโภค ซึ่งกำลังยากลำบากจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำหนัก เป็นการเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันรักษาราคาเอาไว้ พอดีกับเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพิ่งตีพิมพ์จดหมายจากนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยืนยันว่าจะดูแลราคาหน้าฟาร์มไม่เกิน 80 บาท เพื่อให้ราคาขายหมูหน้าเขียงไม่เกิน 160 บาทต่อกิโลกรัม

 

คนแก่ที่รุงรังด้วยผลประโยชน์ – ถึงบ.ก.ที่นับถือ

ม็อบเด็กรุ่นใหม่กลับมาแล้ว กลับมาอีกครั้ง พร้อมๆ กับแฟลชม็อบที่นักศึกษาสถาบันต่างๆ ที่รวมตัวกันในหลายๆ จังหวัด ขอสนับสนุนที่คนรุ่นใหม่ใส่ใจในปัญหาบ้านเมืองและเข้าร่วมเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง นี่แหละคืออนาคตของชาติอย่างแท้จริง ดีกว่าปล่อยให้เด็กไปสนใจในเรื่องเหลวไหลเละเทะ

อีกทั้งเชื่อว่าถ้ารัฐบาลไม่ใส่ใจข้อเรียกร้อง ก็เชื่อว่าจะต้องยกระดับการเคลื่อนไหวแน่นอน เป้าหมายก็คือต้องการให้การเมืองมีความถูกต้องชอบธรรม ไม่ใช่อยู่กันด้วยกติกาบิดเบี้ยว เอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองและนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

แต่ที่รู้สึกรำคาญ เห็นจะเป็นบรรดาเสียงต่อต้านของผู้ใหญ่ ที่จิตใจฝักใฝ่เผด็จการ โจมตีเด็กว่าไม่รู้เรื่องการเมือง หาว่าอ่อนหัดโดนนักการเมืองชักจูง ปัดโธ่ คนแก่ๆ ที่ทั้งตัวรุงรังด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง ผลประโยชน์ทางธุรกิจต่างๆ ยังมีหน้ามาสั่งสอนเด็กที่อยู่ในวัยเรียน ไม่มีภาระทางธุรกิจ เป็นพลังบริสุทธิ์อย่างแท้จริง และยังไฟแรงกว่าผู้ใหญ่วัยอ่อนล้ามากมาย

ขอบคุณ

มองมุมสูง

ตอบ คุณมองมุมสูง

อ่านแล้วเห็นด้วยว่า พลังคนรุ่นใหม่ ยังไม่มีผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่มีผลประโยชน์ธุรกิจเกี่ยวโยงสัมปทานรัฐ ถือเป็นพลังบริสุทธิ์แท้จริง ผู้ใหญ่ที่รุงรุงด้วยผลประโยชน์รู้จักสำรวจตัวเองก่อนจะไปคิดสอนคนรุ่นใหม่ในทางการเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน