แฟ้มคดี

ยังเป็นเรื่องที่รอคอยความชัดเจน

สำหรับกรณีที่ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ ที่มีกระแสข่าวว่ามีชายชุดดำบุกอุ้มตัวไปจากบ้านพักประเทศลาว

โดยมีข้อสงสัยว่าจะเป็นการลงมือจากเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย

เนื่องจากโกตี๋เองเป็นผู้ที่ทางการไทยต้องการตัวอย่างมาก ทั้งจากคดี 112 และคดีก่อการร้ายที่เพิ่งเพิ่มข้อหาเข้าไปหลังจากบุกค้นบ้านเก่าแล้วพบอาวุธสงครามจำนวนมาก

แต่ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งตำรวจและทหาร ก็ยืนยันตรงกันว่าไม่รู้ ไม่เห็น และไม่เคยได้ข่าวดังกล่าว

สอบถามทูตทหารก็ไม่พบข้อมูล

โยนให้เป็นเรื่องของการปล่อยข่าวสร้างสถานการณ์

ขณะที่พรรคพวกฝ่ายโกตี๋เองก็ออกมายืนยันหนักแน่นว่าถูกดักจับไปจริง แถมมีการทำร้ายร่างกายพันธนาการอีกด้วย

จนบัดนี้ก็ไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร

รอให้ความจริงคลี่คลายว่าใครกันแน่เป็นคนลงมือ

สะพัด”โกตี๋”ถูกล็อกตัว

สายๆ ของวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ ระบุว่า โกตี๋ หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือที่รู้จักกันอีกในหมู่คนเสื้อแดงว่า “สหายหมาน้อย” ถูกชายชุดดำดักอุ้ม ไปจากหน้าบ้านในสปป.ลาว เมื่อวันที่ 29 ก.ค.

ท่ามกลางความสนใจของผู้ติดตามข่าวสาร ว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่

และหากเกิดขึ้นจริง ใครกันแน่เป็นชายชุดดำที่บุกไปอุ้มโกตี๋

รวมทั้งประเด็นข้อขัดแย้งต่างๆ เพราะโกตี๋เองก็อยู่ในฐานะ ผู้หลบหนีคดี ไม่น่าจะมีความขัดแย้งรุนแรงในลาว จนส่งผลให้เกิดการดักทำร้าย หรืออุ้มตัวกันได้

หากเป็นฝีมือของกลุ่มคนไทย ก็ยิ่งน่าสงสัยว่าเป็นกลุ่มใดกันแน่ ถึงติดอาวุธบุกข้ามประเทศไปก่อเหตุอย่างอุกอาจได้

ขณะที่ข้อเท็จจริงยังสับสน นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชน ที่ได้สถานะผู้ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา ก็โพสต์เฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า “โกตี๋” ถูกอุ้มหายจากประเทศเพื่อนบ้าน อาจข้ามฝั่งเข้าไทยแล้ว!!!

พร้อมระบุว่า “ผมได้รับคำยืนยันจากคนที่ใกล้ชิดกับโกตี๋ (วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ) หรือสหายหมาน้อย ว่า โกตี๋ได้ถูกกลุ่มชาย ชุดดำ ประมาณ 10 คน คลุมหน้าด้วยหมวกไหมพรม พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าจับตัวไป เมื่อเวลา 09.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น ในประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดยเหตุเกิดขณะที่ “โกตี๋”กำลังจะลงจากรถ เพื่อจะเข้าบ้านพร้อมเพื่อนอีก 2 คน โดยกลุ่มชายชุดดำดังกล่าว แอบซุ่มตัวอยู่ข้างบ้านก่อนที่ “โกตี๋”จะมาถึง

เมื่อ”โกตี๋”ก้าวลงจากรถพร้อมเพื่อนอีก 2 คน กลุ่มชายชุดดำ ดังกล่าว ก็กระจายกำลังกัน เข้าจับกุมทั้ง 3 คน โดยเอาผ้าคลุมหน้าทุกคน พร้อมเอาผ้ายัดปาก และมัดมือไพล่หลัง จากนั้นก็แยก “โกตี๋” พาไปขึ้นรถที่เตรียมไว้

ส่วนเพื่อนโกตี๋อีก 2 คน ถูกลากมาขังไว้รวมกันไว้ภายในบ้าน จากนั้นกลุ่มชายชุดดำก็ออกจากบ้านไป

หลังจากเพื่อนโกตี๋ทั้ง 2 คน ดิ้นหลุดจากการถูกมัด ก็ได้เรียกให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงช่วย โดยแจ้งให้ตำรวจในพื้นที่ทราบแล้ว

เพื่อนโกตี๋ที่ถูกจับ เล่าให้ฟังว่า ชายชุดดำที่เข้ามาจับกุมพวก ตนนั้น พูดภาษาไทย และใช้ที่ชอร์ตไฟฟ้า ชอร์ตเข้าที่ต้นคอตน จากนั้นก็ซ้อมแต่ละคน พร้อมขู่ไม่ให้พูด ไม่ให้ร้อง ขณะเดียวกันเขาบอกว่า ยังได้ยินเสียงโกตี๋พูดว่า “โอ้ย หายใจไม่ออก? จากนั้นเสียงโกตี๋ก็เงียบไป

ตอนนี้เพื่อนทั้งสองคนได้แจ้งความกับตำรวจในพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่มีใครทราบว่า ถึงตอนนี้โกตี๋อยู่ที่ไหน และยังมีชีวิตอยู่ หรือไม่ แต่จากคำบอกเล่าของคนใกล้ชิดโกตี๋เชื่อว่า ตอนนี้โกตี๋ น่าจะยังมีชีวิตอยู่และน่าจะถูกนำตัวข้ามไปฝั่งไทยเรียบร้อยแล้ว

พร้อมโพสต์รูปหลักฐานเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พันธนาการกลุ่มของโกตี๋

เป็นข้อมูลที่รอการพิสูจน์

ย้อนประวัติแดงฮาร์ดคอร์

สำหรับโกตี๋ หรือนายวุฒิพงศ์ เป็นอีกกลุ่มเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ที่เกิดการรวมตัวขึ้นหลังการปฏิวัติของคมช. เมื่อ ปี 2549 โดยเห็นถึงความไม่เป็นธรรมที่รัฐบาลทักษิณ ถูกรัฐประหาร

โดย “โกตี๋” ก่อตั้งกลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย ขึ้นในปี 2552

ต่อมาหลังจากการขอคืนพื้นที่ในการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 จนมีผู้เสียชีวิตกลางเมืองเกือบร้อยศพ กลุ่มคนเสื้อแดงก็กระจัดกระจาย กลุ่มของโกตี๋ ก็กลับมาใหม่ในปี 2554 ด้วยการจัดตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดง ที่ไม่ได้ขึ้นกับนปช. หรือพรรคเพื่อไทย และจัดวิทยุชุมชนคนเสื้อแดง โดยใช้ชื่อสถานีวิทยุเพื่อมวลชน หรือเรดการ์ดเรดิโอ ปทุมธานี

รู้จักกันว่าเป็นคนจัดรายการแบบดุดัน ปลุกระดม

จนกระทั่งปี 2557 เกิดม็อบกปปส. ชัตดาวน์กรุงเทพฯ ก็ตกเป็นข่าวระดมมวลชนมาเผชิญหน้ากับม็อบกปปส. ที่นำโดยพุทธอิสระ ที่พาพวกมายึดหีบเลือกตั้งที่สำนักงานเขตหลักสี่ กทม. ในวันที่ 1 ก.พ.2557

จนมีกลุ่มมือปืนป๊อปคอร์นออกอาละวาด ไล่ยิงคนฝ่ายต้านกปปส.จนแตกกระเจิงที่แยกหลักสี่ ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ทางการเมืองคดีหนึ่ง

หลังจากคสช.รัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครองส่งผลให้มีนักกิจกรรมหลายต่อหลายคนหลบหนีออกไปนอกประเทศ โดยโกตี๋ก็เป็นคนหนึ่งในกลุ่มนั้น

โดยในระหว่างนี้โกตี๋ก็ยังเคลื่อนไหวด้วยการจัดรายการผ่านสื่อออนไลน์ออกมาเป็นระยะๆ และมีข่าวจัดตั้งองค์กรการสถาปนาสหพันธรัฐไทย

ไม่เพียงแค่นั้น ชื่อโกตี๋ยังตกเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกี่ยวพันกับเรื่องราวหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นช่วงทหารล้อมวัดพระธรรมกาย เพื่อบุกจับธัมมชโยให้ได้ แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว

รวมถึงการก่อเหตุความวุ่นวายอีกหลายพื้นที่ก็ถูกโยงไปถึงกลุ่มก๊กของโกตี๋เช่นนั้น

โดยเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ก็เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 1/1 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเคยใช้เป็นสถานีวิทยุเสื้อแดงของโกตี๋

พร้อมยึดวิทยุสื่อสาร 8 เครื่อง ลำโพง เครื่องปั่นไฟ เครื่องขยายเสียง ระเบิดมือ 10 ลูก ปืนยาวลูกซอง เครื่องยิงเอ็ม 79 รวม 7 กระบอก มีดสั้น มีดดาบ และเครื่องกระสุนจำนวนมาก

แม้โกตี๋จะออกมาปฏิเสธ แต่ก็นำไปสู่การออกหมายจับคดีก่อการร้าย ซึ่งเพิ่มมาจากหมายจับคดี 112

พร้อมตั้งเป้าขอตัวจากทางการลาว

ยังไม่มีการตอบรับ แต่อยู่ๆ โกตี๋ก็หายตัวไป

รอพิสูจน์ว่าเป็นฝีมือใครกันแน่

“ตร.-ทหาร”ยันไม่รู้เรื่อง

อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ไทย กลับไม่รู้เห็นถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเลย โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ายังไม่รู้ รู้จากสื่อที่มาถามทุกวัน ส่วนกระแสข่าวที่ออกไปจะหวังผลอะไร ตนก็ไม่รู้ พูดลำบาก เพราะอยู่ดีๆ ก็มีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น จึงไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร และนายวุฒิพงศ์ก็อยู่ที่สปป.ลาวมานานโดยที่เราไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไรกับเขา

ส่วนจะมีผลทางการเมืองอย่างไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เกี่ยว ไม่มี ไม่ประเมินอะไร และเราไม่ได้ไปดูแลเขา และยังไม่รู้ว่าจะจับมาทำไม เพราะและหากจับคงจับไปนานแล้ว แต่เวลานี้ผ่านมาเป็นเวลา 3 ปีที่แล้ว แต่เรื่องนี้เพิ่งมาเกิด

พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.สส. ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว ส่วนที่มีการขอตัวโกตี๋มาดำเนินคดีในไทยนั้น เรื่องดังกล่าวใช้ช่องทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีพล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาฯสมช. เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งตนทำหน้าที่เพียงแค่ประสานไปยังผู้นำทางทหารของลาว เพื่อชี้แจงให้เห็นถึงความจำเป็นของเรา ในการขอตัวโกตี๋กลับมารับโทษในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งผู้นำทหารสปป.ลาว ก็เข้าใจ พร้อมระบุว่าหากไทยมีรายละเอียดเกี่ยวกับโกตี๋ ก็ให้ส่งข้อมูลมา

ซึ่งเป็นการพูดคุยกันนานแล้ว

ขณะที่พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และเลขาธิการคสช. ระบุว่า ทราบเรื่องทั้งหมดจากสื่อมวลชน เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของกองทัพ การประสานสปป.ลาว ให้ส่งตัวโกตี๋ก็เป็นหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ส่วนจะปล่อยข่าวเพื่อสร้างกระแสเองหรือไม่นั้น ก็ไม่มีข้อมูล เกรงว่าหากให้ข้อคิดเห็นอะไรไปก็อาจเกิดผลกระทบเสียหาย เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตามมีหน่วยงานทางการข่าวตรวจสอบอยู่ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย การไปก้าวล่วงในสิ่งที่เราไม่รู้ ก็เกรงจะเกิดผลเสียหายต่อประเทศ แต่ละประเทศมีเอกภาพแต่ละดินแดนอยู่ ไม่ควรไปก้าวล่วง

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพิสูจน์ทราบก่อน ว่าเป็นจริงตามข่าวลือหรือไม่ แต่ยืนยันว่าการข่าวของตำรวจยังไม่มีรายงานเรื่องนี้ แต่ก็ต้องตรวจสอบต่อไปตามขั้นตอนเพื่อให้ได้ความจริงที่ชัดเจน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ประสานไปยังผู้ช่วยทูตทหารไทยประจำประเทศลาว ให้ตรวจสอบ ก็พบว่าในประเทศลาวไม่มีข่าว ดังกล่าวเกิดขึ้น และเว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวนี้มาจากต่างประเทศทั้งสิ้น

เหมือนกับว่า”โกตี๋”หายไปอย่างไร้ร่องรอย

โดยยังไม่รู้ชะตากรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน