คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์ – เรื่อง/ภาพ

2หนุ่มแฉเล่ห์แอพฯกู้เงิน แค่คลิกเข้าไปดูก็เป็นหนี้ ดอกเบี้ยสุดโหด7วัน85%

โลกยุคดิจิทัลทุกธุรกิจล้วนต้องปรับตัว หากยังอยู่เฉยคงไม่พ้นถูก ‘ดิจิทัล ดิสรัปชั่น’ ไม่เว้นแม้ธุรกิจเงินกู้ทั้งในระบบหรือนอกระบบ หมดยุคไปแล้วกับการติดใบปลิวตามตู้โทรศัพท์สาธารณะหรือเสาไฟฟ้า เพราะทุกอย่างถูกย่อลงมาอยู่ในมือถือเพียงเครื่องเดียว เพียงแค่พิมพ์คำว่า กู้เงิน ในช่องค้นหาของแอพสโตร์ ก็จะเจอกับแอพพลิเคชั่นปล่อยเงินกู้จำนวนมากมายให้เลือกใช้บริการ ความน่าเชื่อถือคงต้องตัดสินใจกันเอาเอง

แต่เหรียญมีสองด้านฉันใดก็ฉันนั้น ความสะดวกสบายก็อาจมาพร้อมกับภัยร้าย เช่นกรณีของพ่อค้าบาร์บีคิว ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราว อีกเล่ห์เหลี่ยมของแก๊งปล่อยเงินกู้ ที่เพียงแค่หลงเข้าไปก็อาจตกเป็นลูกหนี้โดยไม่ตั้งใจ

ร้องเรียนนักข่าว

ย้อนไปเมื่อบ่ายวันที่ 11 ต.ค. 2564 ที่ร้านกาแฟล้านสุดคั่ว ณ บางกอก ย่านพุทธมณฑลสาย 2 แขวงวัฒนา เขตวัฒนา กทม. นายสิปปนนท์ ผลสมภพ อายุ 43 ปี พ่อค้าบาร์บีคิว เข้าร้องเรียนสื่อมวลชน หลังถูกยัดเยียดให้กู้เงินด่วน แถมดอกเบี้ยโหด

นายสิปปนนท์กล่าวว่า ขณะเล่นเฟซบุ๊ก จู่ๆ ก็มีโฆษณาโลโก้ธนาคารแห่งหนึ่งเกี่ยวกับเงินกู้ จึงเข้าไปเพื่อจะเช็กสเตตเมนต์ตัวเอง เพราะตนก็เป็นลูกค้าของธนาคารนี้ และคิดว่าเป็นเว็บไซต์ของธนาคาร โดยมีการให้ใส่ประวัติทั่วไปและถ่ายรูป ซึ่งเป็นปกติของการทำธุรกรรมกับธนาคารเพื่อยืนยันตัวตน แต่มาเอะใจหน้าสุดท้ายให้เราเลือกจำนวนเงินการกู้ ซึ่งตนไม่ได้จะกู้เงิน แค่ต้องการเช็กสเตตเมนต์เท่านั้นจึงกดย้อนกลับไปหน้าแรกและกดออก

5 ชั่วโมงต่อมา มีบัญชีของธนาคารที่ตนมีบัญชีเงินฝากอยู่แจ้งเตือนว่ามีการโอนเงินเข้ามา 3 ครั้ง 3 บัญชีในนามบุคคล ซึ่งชื่อแตกต่างกัน ครั้งแรก 1,740 ครั้งที่สอง 1,575 และครั้งสุดท้าย 1,860 บาท จากนั้นตนพยายามติดต่อกลับเพื่อจะโอนเงินคืน แต่ไม่มีช่องทางใดที่สามารถติดต่อได้ ส่วนเงินที่โอนมาก็ไม่กล้าใช้กลัวเป็นหนี้ พยายามติดต่อทุกวัน แต่เหมือนเป็นการสื่อสาร ด้านเดียว ไม่สามารถติดต่อได้เลย

แค่พิมพ์ก็เจอเพียบ

ผ่านไป 7 วัน มีพนักงานโทรศัพท์มาทวงเงินว่าตนได้ยืมเงิน 3,180 บาท โดยคิดดอกเบี้ยตั้งแต่ยืมจนชนงวดต่อ 7 วัน เป็นเงิน 1,440 บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 83 ต่อ 7 วัน จึงปฏิเสธว่าไม่ได้กู้ยืมใคร และเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.กริชชนะ คำพันธุ์ สว.(สอบสวน) สน.บางเสาธง โดยเจ้าหน้าที่แนะนำให้โอนเงินคืนให้เจ้าของบัญชีที่ติดต่อได้ก่อนซึ่งมีอยู่ 1 บัญชีเท่ากับจำนวนเงินที่โอน เข้ามา

ส่วนอีก 2 บัญชี ยังไม่ยอมให้โอนเงินต้นคืน สำหรับดอกเบี้ยให้แจ้งกับเจ้าของเงินว่าให้มารับได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนไม่ได้เดือดร้อนและไม่กล้าถอนเงินมาใช้แต่อย่างใด ทั้งนี้อยากฝากเตือนคนอื่นๆ อย่าหลงเชื่อโฆษณาและอย่าเผลอเข้าไปให้ข้อมูลส่วนตัวง่ายๆ อาจจะต้องเสียเงินโดยใช่เหตุและเสียเวลาการใช้ชีวิตประจำวัน

นายสิปปนนท์ ผลสมภพ

นอกจากกรณีของพ่อค้าบาร์บีคิวรายนี้แล้ว ยังมี นายธวัช อยู่สำราญ อายุ 52 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งก็ตกเป็นเหยื่อของแก๊งเงินกู้ออนไลน์เช่นกัน โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ขณะเล่นเฟซบุ๊กตามปกติมีโฆษณาเด้งขึ้นมาว่าท่านได้รับเครดิตกู้เงินได้ 200,000 บาท เมื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่นชื่อ “สินเชื่อฉับไว” แล้วลงทะเบียน จากนั้นป้อนข้อมูลต่างๆ จนครบแล้ว ในแอพฯ โชว์ว่าคุณได้เครดิต 1,500 บาท แต่ไม่นานก็มีเงินโอนเข้ามาในนามชื่อบริษัท

โชว์ใบแจ้งความ

ด้วยความตกใจจึงรีบติดต่อคอลเซ็นเตอร์ตามช่องทางต่างๆ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เหมือนการสื่อสารด้านเดียวและไม่กล้าใช้เงินดังกล่าว ผ่านไป 5 วัน มีคนโทร.มาทวงเงิน 2,035.49 บาท โทร.มาจิกทุกชั่วโมง ในขณะที่กำลังทำงาน โทร.ไปหาภรรยา บอกว่าตนเป็นหนี้ ด้วยความรำคาญจึงยอมโอนเงินคืนไปให้ คิดว่าเสียแค่ห้าร้อยกว่าบาท ให้จบๆ ไปโดยไม่ได้ไปแจ้งความแต่อย่างใด

ทั้งสองหนุ่มให้เหตุผลที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวเพราะว่าไม่อยากให้มีใครเสียรู้อีก แม้ดูว่ายอดเงินไม่มาก แต่หากหลายๆ คนก็น่าจะเป็นเม็ดเงินมหาศาลอยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน