คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย…วงค์ ตาวัน
คำขอยุติขัดแย้งจากนายกฯ ยากจะเป็นจริงได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มักเรียกร้องบ่อยๆ แม้แต่ล่าสุดที่เดินทางไปเยือนอุดรธานีก็ยังเน้นย้ำคำนี้ นั่นคือ ขอให้ทุกฝ่ายยุติความขัดแย้ง เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า ไปจนถึงคำว่า ไม่เคยมีปัญหากับคนรุ่นใหม่ ขอให้มาร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ
ดูเหมือนคำเรียกร้องอย่างเดียวคงไม่พอ ที่จะทำให้ความขัดแย้งยุติได้ รวมถึงไม่อาจทำให้หมดปัญหากับคนรุ่นใหม่ได้จริงๆ!
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในวันนี้ คงยากที่จะทำให้ความขัดแย้งในบ้านเมืองนี้คลี่คลายได้
ยกตัวอย่างง่ายๆ กรณีลูกสาวของแกนนำม็อบพธม.และกปปส.ที่เปิดตัวร่วมวงศิลปินเคป๊อป ถูกต่อต้านหนัก กลายเป็นกระแสร้อนในโซเชี่ยล
โดยยกประเด็น การไปมีส่วนร่วมชุมนุมเพื่อสนับสนุนให้เกิดรัฐประหาร จนได้พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกฯ
รวมทั้งการที่คนรุ่นเดียวกัน ยังต้องอยู่ในคุกมากมายหลายคน!!
ปัญหาอำนาจการเมืองที่ไม่ถูกต้องไม่เป็นธรรม
ปัญหาคนรุ่นใหม่ถูกกวาดจับเข้าคุก
แค่ 2 ประเด็นนี้ก็ทำให้ไฟอันร้อนแรงในใจคนรุ่นใหม่ พร้อมจะลุกโชนได้ตลอดเวลา!!
ตราบใดที่ 2 ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถึงที่สุด
ก็ยากที่บ้านเมืองเราจะหมดความขัดแย้งไปได้
ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายสนับสนุนการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยเสรี มีรัฐบาลจากการเลือกตั้งแท้ๆ กับฝ่ายที่สนับสนุนให้อำนาจกองทัพยังคงควบคุมการเมืองไทยได้
จนกระทั่งปีสองปีมานี้ พัฒนาเป็นความขัดแย้งกับคนรุ่นใหม่อย่างเดือดระอุ
ลงเอยการใช้วิธีงัดข้อกฎหมายสารพัดมาจัดการ และเอาไปคุมขังกราวรูดเช่นนี้
มีหรือจะทำให้ปัญหาเบาบางลงไป มีหรือจะทำให้อีกฝ่ายที่ถูกกดนั้นสยบยอม!?!
ที่สำคัญ จับกุมไปคุมขังมาแล้วนานขนาดไหน เอาเข้าคุกไปแล้วกี่รอบ
ทำไมคนเหล่านี้จึงยังไม่เลิกความคิดเลิกข้อเรียกร้อง
แถมมีแต่จะเพิ่มความร้อนแรงมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะเกิดความคับแค้น
นี่เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างหนึ่งว่า จับไปขังขนาดนี้ ถ้าเด็กเหล่านี้แค่ถูกหลอกมาถูกชักใยมา ป่านนี้คงเลิกสู้หมดแล้ว กระทั่งอาจจะออกมาแฉหมดแล้ว!?
แต่ไม่ใช่ เพราะไม่จริง
ทั้งยังเป็นสัญญาณเตือนด้วยว่า เครือข่ายอำนาจปัจจุบันยังจะต้องเผชิญความขัดแย้งเหล่านี้ไม่มีวันเลิกรา!
วงค์ ตาวัน