“รุก กลางกระดาน”
กลายเป็นวาทกรรมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จากกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. พูดไว้ในการเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ 2561
ที่ระบุตอนหนึ่งว่า ผมก็เหนื่อยทำงานเหมือนกัน ทั้งคิดทั้งทำ ไม่รู้จะไปขึ้นค่าแรงกับใคร ผมมีเงินเดือนน้อยกว่า นายกฯคนอื่นในอาเซียน แต่ไม่ได้เรียกร้องอะไร มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น
เข้าใจว่าเป็นเพียงคำพูดรำพึงรำพัน เพื่ออธิบายถึงการทำงานหนัก ในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน
แต่ก็ไปห้ามกระแสสังคมตั้งคำถาม และสงสัยว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่พอใจ กับอัตราค่าจ้างในฐานะนายกรัฐมนตรีกระนั้นเหรอ
และในขณะที่แรงงานขั้นต่ำยังอยู่ที่ 300 บาทกว่าๆ หรือเดือนละ 9,000 บาท
พล.อ.ประยุทธ์ กลับมีเงินเดือน เดือนละ 75,590 บาท รวมเงินเพิ่มพิเศษอีก 50,000 บาท เท่ากับว่าได้ค่าตอบแทน 125,590 บาท ต่อเดือน
นอกจากนี้ยังมีเงินเดือนในฐานะ หัวหน้าคสช. อีกเดือนละ 125,590 บาท รวมเป็นเดือนละกว่า 250,000 บาท
ไม่รวมกับเบี้ยงเลี้ยง เบี้ยประชุม การเป็นบอร์ดของหน่วยงานองค์กรต่างๆ รวมๆ แล้วก็มากมายอักโข พอจะเลี้ยงครอบครัวชนชั้นกลางให้ได้กินอยู่อย่างสบายๆ
นับเป็นเงินจำนวนมากที่มนุษย์เงินเดือนเราๆ ท่านๆ ไม่ใช่เศรษฐีผู้มีอันจะกินหากันไม่ได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน
แต่กระนั้น หากพล.อ.ประยุทธ์มองเห็นว่างานที่ทำอยู่หนักหนาเกินกว่ารายได้ ที่สมควรจะได้รับ ก็ยังมีหนทางเลือกอยู่อีก
ไม่ว่าจะลาออกไปพักผ่อนไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบ
แล้วปล่อยให้คนที่เขาอาสามาทำงานได้แสดงตัวให้ประชาชนได้ให้ฉันทานุมัติ ในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ใครที่มาทำแทนก็ต้องอดทนกับค่าตอบแทนที่ได้รับต่อไป
แต่หากไม่ชอบทางเลือกข้างต้น พล.อ. ประยุทธ์ ก็สามารถขึ้นเงินเดือน หรือค่าตอบแทนของตัวเองให้มากยิ่งขึ้น
จะเอาให้สูงที่สุดของอาเซียนก็ทำได้ ในเมื่อมี ม.44 อยู่ในมือ หรือหากกระดาก ก็มอบนโยบายให้สนช.ไปดำเนินการตามประสงค์มา
สุดท้ายก็อยู่ว่าท่านนายกฯจะเลือกทำอย่างไหน
ประชาชนจะทำอะไรได้ อย่างมากก็แค่มองตาปริบๆ
