“รุก กลางกระดาน”
ยิ้มกันแก้มปริ สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ที่เดินสายเยือนถึงอีสานใต้ สุรินทร์-บุรีรัมย์ ในการประชุมครม.สัญจร
เมื่อพบกับการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่ตระการตา โดยมีมือระดับเนวิน ชิดชอบ อำนวยการผลิตด้วยตัวเอง
รวมทั้งคลื่นประชาชนหลายหมื่นที่หลั่งไหลมา จนการจราจรติดขัด ถือเป็นประวัติศาสตร์ของเมืองบุรีรัมย์
จะไม่ปลื้มอกปลื้มใจก็คงไม่ได้
ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ และกลุ่มการเมืองฟากฝั่งของนายเนวิน
ว่าไม่น้อยกว่าความสัมพันธ์กับตระกูล ‘คุณปลื้ม’ จากชลบุรี
และพอจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ที่เตรียมจะยกระดับขึ้น ร่วมกับกลุ่มการเมืองจากกปปส. สุโขทัย สระบุรี หรือกระทั่งนครราชสีมา
แม้จะยังไม่สามารถเลือกใช้คำว่า ‘ดูด’ หรือ ‘ร่วมกันทำงานเพื่อชาติ’ แต่ก็เชื่อว่าความสัมพันธ์ต้องมีพัฒนาการไปอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามยังคงเกิดคำถามขึ้นว่า กลุ่มคน เหล่านี้ที่พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปสานสัมพันธ์ด้วย ก็คือพวกนักการเมือง ที่เคยถูกตั้ง ข้อรังเกียจว่าเป็นคนทำให้ประเทศถึงทางตัน จนทำให้ทหารต้องออกมาปฏิวัติไม่ใช่หรือ
แล้วทำไมวันนี้ถึงจับมือจูบปากร่วมทำงานได้อย่างสนิทใจ
หรือเป็นเพราะการเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเลขที่ต้องรวบ รวมจำนวนส.ส.มาสนับสนุนให้มากที่สุด
ซึ่งก็น่าเป็นห่วงว่าหากเป็นเช่นนั้น จะแตกต่างอะไรกับรูปแบบทางการเมืองแบบเดิมๆ เมื่อ 10-20 ปีก่อน
หรือนี่คือการปฏิรูปที่ลงทุนลงแรง ทำกันมาจนระบอบประชาธิปไตยไทยเละเทะป่นปี้
หากเป็นเช่นนั้น ก็ได้แต่คอยเฝ้าดูต่อไปว่าเรื่องราวเหล่านี้จะมีจุดจบลงที่ใด
แต่ที่สำคัญอย่าลืมเด็ดขาดว่าก่อนหน้านี้ คนเหล่านี้ที่กำลังผูกสัมพันธ์แน่นแฟ้น เคยทำอะไร และอยู่กับใครมาก่อน
มาจนถึงวันนี้บรรดาคนที่เคย ‘สนิทชิดเชื้อ’ กับพวกนักการเมืองเก่า มีสถานะอย่างไร อยู่ในสภาพแบบไหน
“มันจบแล้วครับนาย” มีที่มาจากใคร
ทบทวนกันให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะมีวันที่บั้นปลายไม่ต่างกัน
