คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม : ตื้บลูกนายพล

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

รุก กลางกระดาน

เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคม สำหรับกรณีที่นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ ลูกนายทหารยศนายพล ที่ถูกการ์ดผับชื่อดัง มาลินสกาย รุมตื้บจนบาดเจ็บ ยับเยิน

ด้วยเหตุที่มีดาราชื่อดังร่วมอยู่ในเหตุการณ์ แถมคนที่ถูกกล่าวหาว่าสั่งการให้รุมทำร้าย เป็นแฟนหนุ่มคนดังของ นักแสดงสาว ที่มีชื่อติดปากในแวดวงสังคมว่า ไฮโซบอล กฤษณะ อมิตรสูญ

แถมผู้เสียหายยังเป็นลูกอดีตนายพลในราชการ ซึ่งหลังเกิดเหตุมีทั้งนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรองนายกฯ ประวิตร วงษ์สุวรรณ โทรศัพท์สอบถามให้กำลังใจกันโดยตลอด

ซึ่งคดีคืบหน้ารวดเร็ว มีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุ 4 คน และไฮโซบอลในฐานะผู้สั่งการ

ทั้งหมดก็มอบตัวต่อสู้คดี ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาในบ้านเมืองที่ดำรงอยู่ด้วย นิติรัฐ

ใครผิดใครถูกว่ากันตามพยานหลักฐาน

อย่างไรก็ตาม สังคมก็อดไม่ได้ที่จะนำไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่ทหารยศน้อย หรือกระทั่งพลทหาร ถูกทำร้ายร่างกายในรูปแบบของการ “ซ่อม” ของผู้บังคับบัญชา จนหลายคนบาดเจ็บ

บางรายรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

อย่างกรณีของพลทหารวิเชียร เผือกสม ที่ถูกลงโทษในค่ายนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส จนเสียชีวิต เมื่อปี 2554

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุศาลแพ่งสั่งให้กองทัพบกชดเชยค่าเสียหายเป็นเงิน 6.5 ล้านบาท

แต่เรื่องคดีอาญากลับไม่คืบหน้าใดๆ แม้ปปท.จะมีมติชี้มูลความผิดทั้งวินัยและอาญากับกลุ่มทหารที่ลงมือแล้วก็ตาม

หนำซ้ำ น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หลานสาว ที่เดินหน้าร้องเรียนเรียกความเป็นธรรมคืนสู่ครอบครัว กลับถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ทำงาน และส่งตัวไปดำเนินคดีที่ปัตตานีโดยทันที

ทุกวันนี้น.ส.นริศราวัลถ์ แม้ต้องตกเป็นจำเลย ก็ยังต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้พลทหารวิเชียร

แต่จะมีบทสรุปเหมือนกับคดีตื้บลูกนายพลหรือไม่

คงต้องติดตามใกล้ชิดต่อไป