“มันฯ มือเสือ”
ผลประชุมที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ร่วมกับตัวแทนพรรค 199 คน จาก 74 พรรค ถึงยังไม่ชัดเจนทั้งหมด
แต่ก็ช่วยผ่อนคลายความขมุกขมัวทางการเมืองไปได้บ้าง
โดยเฉพาะช่วงเวลาจัดการเลือกตั้ง ที่มีการตั้งเป็นตุ๊กตาขึ้นมาว่าจะอยู่ช่วงต้นปี 2562 เร็วสุด 24 ก.พ., 31 มี.ค., 28 เม.ย. ช้าที่สุด 5 พ.ค.
ส่วนที่พรรคเรียกร้องให้ “ปลดล็อก” คำสั่ง 3 ฉบับ คือ คำสั่งหัวหน้าคสช. 57/2557, 3/2558 และ 53/2560
รัฐบาลรับปากจะเสนอต่อคสช.พิจารณา
ถึงจะเป็นแค่ “คลายล็อก” ไม่ใช่ “ปลดล็อก” ทั้งหมดก็ตาม
เพื่อให้พรรคการเมือง และกกต. สามารถทำหน้าที่ของตนเองได้ ไม่ว่าประชุมพรรค ตั้งสาขาพรรค หาสมาชิก แบ่งเขตเลือกตั้ง ทำไพรมารี่โหวต เป็นต้น
โดยเฉพาะไพรมารี่โหวตพรรค การเมืองมีทั้งเสนอให้ยกเลิก กับเสนอให้เลื่อนไปใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ซึ่งพล.อ.ประวิตร รับข้อเสนอเพื่อไปหารือกับ คสช. กกต. กรธ. และสนช.อีกครั้ง
ทุกอย่างเริ่มจะลงตัว
แสดงให้เห็นความจริงใจของรัฐบาลคสช.ในการเดินหน้าตามโรดแม็ป
แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันต่อไป คือการประคับประคองบรรยากาศถ้อยทีถ้อยอาศัยแบบนี้ ไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ให้มีใครหรือฝ่ายใดสร้างเงื่อนไขขึ้นใหม่ เพื่อยื้อเลือกตั้งออกไปอีก
หรือไม่ก็พยายามกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม บังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน เอาจริงเอาจังกับพรรคคู่แข่ง แต่กลับละเว้นพรรคพวกของตน
อย่าง “คลิปวิดีโอ” คนแดนไกล ซึ่งถูกยกมาเทียบกับการ “เดินสายดูด” อดีตส.ส.ของบางพรรค ที่ตั้งขึ้นมารองรับการสืบทอดอำนาจ
การใช้กฎกติกาสองมาตรฐาน จ้องยุบพรรคคู่แข่ง จะเป็นการชักใบให้เรือเสีย
ต่อให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริง ก็จะไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งในสังคมได้อยู่ดี