มันฯ มือเสือ

พลังดูดยังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่อง

โดยมีเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ สองพรรคการเมืองได้รับผลสะเทือนมากที่สุด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยกล่าวถึงนิยาม “พลังดูด” คือการดึงตัวอดีตส.ส.จากพรรคอื่นๆ ไปร่วมกับพรรคของตัวเอง

โดยเสนอผลประโยชน์แลกเปลี่ยนรูปแบบต่างๆ

ที่รู้มามี 3 วิธี ได้แก่ ใช้เงินดูด ใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีจูงใจ และวิธีสุดท้ายที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่าเลวร้ายที่สุด คือการนำคดีความมาต่อรอง

ล่าสุดเป็นนายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ออกมาโพสต์แฉกลไกการทำงานของพลังดูด ให้เห็นชัดๆ ว่าเท่าที่ได้ยินมาเครื่องมือที่ใช้ดูดในปัจจุบันประกอบด้วยปัจจัยทรงพลัง

“3 ด้านมืด”

ด้านมืดแรก การใช้พลังเงิน ซึ่งไม่มีใครตอบได้ว่าเงินที่นำมาใช้ดูดอดีตส.ส. นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ใครหามา หามา จากไหน และด้วยวิธีใด

ด้านมืดที่สอง การใช้พลังองค์กรอิสระในการข่มขู่อดีตส.ส.ว่าถ้าหากไม่ยอมย้ายพรรคไปอยู่ด้วยก็จะถูกตรวจสอบทุกเรื่องที่สามารถจะหามาเอาผิดได้ แต่หากย้ายไปอยู่ฝั่งเดียวกันก็จะรอด ไม่ถูกตรวจสอบ

ด้านมืดสุดท้าย การใช้พลังข้าราชการในแต่ละกรมกองที่สวามิภักดิ์ต่อเผด็จการ

ใช้อำนาจทางการปกครอง การออกใบอนุญาต การให้คุณให้โทษต่างๆ ที่อำนาจรัฐพึงกระทำได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ออกเดินสายต่อรองว่า ถ้าย้ายมาอยู่ด้วยก็จะได้รับการช่วยเหลือ

นายอภิสิทธิ์เรียกร้องให้สังคมปฏิเสธพลังดูดการเมืองแบบนี้ เนื่องจากไม่ได้ยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง แต่เป็นเรื่องของประโยชน์ส่วนตัว

ส่วนนายพานทองแท้อ้างคำพูดของ “ทักษิณ” ที่ว่า เข้าใจอดีตส.ส.ที่ถูกพลังมืดดูดไปว่าเขามีเหตุจำเป็น แต่ถึงจะดูดไป เสียงส่วนใหญ่ของประเทศก็ยังอยู่ ที่เดิม และจะเทมามากขึ้นกว่าเดิม

เทมาแบบแลนด์สไลด์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน