“รุก กลางกระดาน”

เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีจริงๆ สำหรับการทำงานของตำรวจไทย

ที่สามารถกอบกู้ชื่อเสียงของประเทศได้อย่างดี

สำหรับการคลี่คลายคดีนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ ที่อ้างต่อสื่อต่างชาติว่าถูกมอมยาและล่วงละเมิดทางเพศ ระหว่างเดินทางมาเที่ยวเกาะเต่า ประเทศไทย ได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งต้องยกความดีให้กับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ท่องเที่ยว ที่รับคำสั่งจากผบ.ตร. บินด่วนลงไปคลี่คดี

ในที่สุดก็มีหลักฐานที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ นั่นก็คือสภาพน้ำขึ้นน้ำลง ในจุดที่อ้างว่าเป็นที่เกิดเหตุ

ยากยิ่งที่จะมีคนร้ายไปลงมือได้

เมื่อชี้แจงต่อสถานทูตอังกฤษ ก็แสดงความเข้าอกเข้าใจ แถมสื่อมวลชนก็นำเสนอข่าวอย่างเป็นลำดับ

ทำให้แก้ข่าวที่ถูกเข้าใจผิด สร้างภาพลักษณ์ที่ดีกลับคืนมา

แต่แทนที่เรื่องราวจะจบลงด้วยดี

กลับมีเรื่องแทรกซ้อนให้ทุกอย่างบานปลายยิ่งขึ้นไป เมื่อการดำเนินคดีขยาย ไปถึงเพจเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ข่าวท้องถิ่น

ยิ่งไปกว่านั้นยังรวมไปถึงคนที่แชร์ข้อความ หรือข่าวดังกล่าวด้วย!??

ทำให้ภาพลักษณ์ที่ดูดีอยู่หลัดๆ หายไป ในทันที

เพราะต้องเข้าใจว่าสิ่งที่เพจเฟซบุ๊ก หรือเว็บไซต์เผยแพร่ ก็มาจากถ้อยคำให้สัมภาษณ์ของแหม่มสาว ต่อสื่ออังกฤษ ไม่ใช่การเขียนเองเออเอง

แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ แต่สิ่งที่ควรปฏิบัติ ก็คือการชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ใช่การใช้กฎหมายในลักษณะดังกล่าว

เพราะในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมาย ย่อมตีความเจตนารมณ์ของกฎหมายโดยกว้าง ว่าสิ่งที่กำหนดออกมาเพื่อให้เป็นกติกาของสังคม

ไม่ใช่การใช้อำนาจห้ามวิพากษ์วิจารณ์

แถมเพจที่ถูกดำเนินคดี ยังเป็นเพจที่เปิดเผยเรื่องราวนาฬิกาหรูหลากหลายเรือน ของรองนายกฯ จนนำไปสู่การพิจารณาของป.ป.ช.

ย่อมทำให้เกิดข้อครหา

ภาพที่ดูดีก็กลับตาลปัตรไปอย่างน่าเสียดาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน