คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
เข้าสู่เทศกาลปีใหม่ 2560 ช่วงเวลาในการส่งความสุขให้กัน
แม้จะไม่ค่อยเป็นสุขมากนัก เพราะ ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจที่ซบเซา ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ปัญหาการเมือง สิทธิมนุษยชน ที่ถูกละเมิด ทำให้อำนาจยังไม่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
แต่ก็ต้องให้กำลังใจทุกคนก้าวผ่านวันเวลาที่เหนื่อยยากเช่นนี้ และมุ่งหวังว่าในอนาคตจะเรืองรองผ่องใสมากขึ้น
ใครที่ต้องประสบปัญหาทนทุกข์ ก็ยังต้องต่อสู้ และขอให้ใช้เวลาช่วงเทศกาล ปีใหม่นี้ได้กลับไปพักผ่อนอยู่กับครอบครัว เพื่อให้มีแรงในการต่อสู้กับเรื่องต่างๆ ต่อไป
สิ่งสำคัญก็คือต้องเดินทางกลับบ้าน และกลับมาทำงานอย่างสวัสดิภาพ
การเข้มงวดทางการจราจรจึงจำเป็นต้องมี
อีกอย่างที่คนนิยมใช้ในการเดินทาง ก็คือรถไฟ ซึ่งล่าสุดก็ได้รับการปรับปรุงอย่างดี
โดยรฟท. ปรับเปลี่ยนขบวนรถนอนโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 ใน 4 เส้นทางประกอบด้วย ขบวนรถด่วนพิเศษอุตราวิถี(กทม.-เชียงใหม่) ขบวนรถด่วนพิเศษอีสานพัฒนา(กทม.-อุบลราชธานี) และเส้นอีสานมรรคา(กทม.-หนองคาย)
ไม่เพียงเท่านั้นยังเอาใจผู้มีรายได้น้อย ด้วยการปรับปรุงตู้รถไฟโดยสารชั้น 3 ให้สะดวกสบาย สะอาด มากขึ้น
ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นประโยชน์ให้กับประชาชนผู้เดินทาง
และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้รฟท.ที่เห็นการปรับเปลี่ยนมากที่สุด
เพียงแต่น่าเสียดายอยู่ว่าการเดินทางระบบรางที่ปรับปรุงห้องโดยสาร แต่กลับละเลยหัวใจหลัก ก็คือความรวดเร็ว!!
ทุกคนที่เดินทางด้วยรถไฟ ต้องถึงที่หมายด้วยเวลาเดิม
จึงต้องตั้งคำถามว่าแล้วการปรับปรุงระบบราง การเดินรถ ที่ระบุว่าต้องดำเนินการใช้งบประมาณเป็นพันล้าน
ตอนนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
หวนคิดไปถึงวรรคทองของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ‘เวลามีค่า’
หากเป็นไปตามแผนรัฐบาลก่อน อีก 4 ปีข้างหน้า ก็จะได้ใช้ระบบรางใหม่
แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ต้องรออีกนานเท่าใด
หรือต้องรอถนนลูกรังหมดไปจากประเทศไปก่อนจริงๆ