พรรคประชาธิปไตย พรรคเผด็จการ
สมิงสามผลัด
หลังจากที่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ออกมาระบุว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง จะร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตร และ อดีตพุทธะอิสระ แกนนำม็อบ กปปส.
บอกถึงขั้นที่ว่า ทั้ง “ตู่-จตุพร“ กับ “สนธิ ลิ้ม” เตรียมตั้ง พรรคเพื่อชาติ
มีจุดประสงค์เพื่อเป็นพรรคสายกลาง สลายสีเสื้อเหลือง-แดง เปิดทางให้ทุกฝ่ายร่วมกันทำงานทางการเมือง
เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกคือการก่อตั้งพรรคเพื่อชาติ กับอีกส่วนคือนายจตุพรจับมือกับ นายสนธิ
ส่วนหลังนี้ก็ชัดเจนแล้ว เพราะ นายจตุพร แถลงแล้วว่า ไม่มีการจับมือกับ นายสนธิ ตั้งพรรคการเมือง เป็นการเข้าใจผิด
นายจตุพรบอกว่า ช่วงที่อยู่ในเรือนจำมีโอกาสพบปะพูดคุยกับนายสนธิ และพุทธะอิสระ พูดคุยหาทางออกให้กับประเทศร่วมกันได้ ถือเป็นภาพความงดงามอย่างหนึ่ง แต่เป็นคนละส่วนกับเรื่องที่จะมาตั้งพรรคการเมืองร่วมกัน เพราะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ต่างคนต่างถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจะมาคุยเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร
ส่วนเรื่องพรรคเพื่อชาติ นายจตุพรก็ยอมรับว่า มีกลุ่มนปช.บางส่วนที่สนใจอยากเข้ามาทำงานการเมือง อยากมีเวทีที่จะทำงานต่อ โดยไม่มีเรื่องของความขัดแย้งมาเกี่ยวข้อง ดังนั้นพรรคเพื่อชาติจึงเกิดขึ้น เพื่อตอบโจทย์ให้กลุ่มคนที่รักประชาธิปไตย รวมทั้งนปช.
“นปช.ที่ไม่มีพื้นที่ในพรรคเพื่อไทยก็สามารถไปอยู่พรรคเพื่อชาติแทนได้” นายจตุพรกล่าว
ส่วน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ก็พูดในทำนองเดียวกันว่า ไม่ปิดกั้นนปช.ไปร่วมกับพรรคเพื่อชาติ หากพรรคเพื่อชาติยืนยันหลักการประชาธิปไตยเช่นกัน
นายณัฐวุฒิฟันธงเปรี้ยงด้วยว่า จะมีพรรคการเมืองเกิดขึ้นมากมายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า
แต่การเลือกตั้งใหญ่ที่จะถึงนี้ จะมีเพียงแค่ 2 ฝ่ายเท่านั้นให้ประชาชนตัดสินใจ
คือพรรคประชาธิปไตย กับพรรคเผด็จการ
