คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สมิงสามผลัด
กลับมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง สำหรับคดีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกกล่าวหาเรื่องเอกสารในการเข้ารับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตร
เพราะเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหม ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ขอให้เร่งรัด รีบเร่ง ดำเนินการยื่นฎีกาคดีดังกล่าว เนื่องจากศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษาตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2559 และอัยการได้ยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นฎีกาไว้ โดยศาลได้อนุญาตให้ขยายเวลายื่นฎีกาถึงวันที่ 13 มกราคมนี้
แต่จนถึงขณะนี้ กระทรวงกลาโหมยังไม่ได้ดำเนินการ
พล.อ.อ.สุกำพล จึงได้ยื่นหนังสือขอให้ พล.อ.ประวิตร สั่งการให้เร่งรัดการยื่นฎีกาคดี นายอภิสิทธิ์ โดยมีประเด็นสำคัญ 4 ข้อหลัก เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคง ประโยชน์สาธารณะ เพื่อธำรงหลักความสุจริตยุติธรรม และเพื่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว ศาลแพ่งพิพากษาว่านายอภิสิทธิ์หลบหนีการเกณฑ์ทหารและได้เข้ารับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตรโดยมิชอบ และได้ใช้ใบแทน “สด.9” ซึ่งเป็นเอกสารเท็จ ไปขึ้นทะเบียนทหารกองประจำการ 2 มิถุนายน 2531
ต่อมาพล.อ.อ.สุกำพล ในฐานะรมว.กลาโหมขณะนั้น ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วมีคำสั่งให้ปลดออกจากราชการ มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันกระทำผิด
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยและพิพากษาในข้อกฎหมายว่า เนื่องจากเป็นกรณีที่การกระทำ ผิดปรากฏทราบภายหลังที่นายอภิสิทธิ์ ลาออกจากราชการแล้ว จึงให้เพิกถอน คำสั่ง กห. ที่ให้ปลดนายอภิสิทธิ์
แต่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นข้อเท็จจริงหรือเรื่องอื่นๆ
โดยวันนี้ (13 ม.ค.) เป็นกำหนดเส้นตายที่กระทรวงกลาโหมต้องยื่นฎีกาคดีความดังกล่าว พล.อ.อ.สุกำพลจึงจำเป็นต้องเร่งรัดให้กลาโหมดำเนินการ
มิเช่นนั้นคดีนี้จะถูกปล่อยให้หมดอายุความไปทันที
